วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

เทรดsหุ้น Forex ตามข่าวเป็นอย่างไร

การเทรดหุ้น Forex ตามข่าว คือ อะไร

ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เป็นเรื่องที่สำคัญในการลงทุนในตลาดหุ้น Forex เพราะตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนและอ่อนไหวต่อข่าวสารอย่างมาก หากนักเทรดหุ้น Forex ละเลยซึ่งข้อมูลข่าวสารตรงนี้ไป ก้มหน้าก้มตาดูแต่ข้อมูลทางเทคนิคจากกราฟเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ไม่ทันคนอื่นๆ สัญญาณซื้อขายที่ได้จากการวิเคราะห์ตลาดหุ้น Forex ทางเทคนิคจะมาช้ากว่าเสมอ เพราะเป็นการนำข้อมูลในอดีต ซึ่งผ่านมาแล้ว นำมาสร้างเป็นกราฟเพื่อใช้ดูแนวโน้มอีกที ฉะนั้นแล้ว นักเทรดหุ้น Forex ที่ดี ควรมีการผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ข่าวสารทางเศรษฐกิจกับแนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างลงตัว เพื่อที่จะได้ทันต่อทุกสถานการณ์ พูดง่ายๆก็คือ ให้มันมีหลายกระบวนท่าหน่อย ถึงตลาดหุ้น Forex จะพยายามอัดเราอย่างไร ก็จะได้มีกระบวนท่าไว้ตั้งรับ ไม่ล้มหมดตัวง่ายๆนั่นเอง



นักลงทุนสามารถใช้บริการในส่วนของข่าวเด่นได้ โดยพวกเขาสามารถค้นหาข่าวรายวันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในโลกแห่งการเงิน รวมไปถึงข่าวที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มของตลาด คู่สกุลเงิน ความเคลื่อนไหวในตลาดหลักทรัพย์ การคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ สถิติของดัชนีและตัวชี้วัดต่างๆตามช่วงระยะเวลา การเงินระดับสูง กระแสการควบรวมกิจการ การลงทุน ข่าวต่างๆจากทวีปยูโรโซน และข่าวอื่นๆอีกมากมายได้ในส่วนข่าวเด่น

ข่าวเด่นในที่นี้คือข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ เกิดขึ้น ณ เวลาปัจจุบัน และเป็นข่าวที่มีความสำคัญซึ่งเกิดในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก ซึ่งข่าวพิเศษในส่วนนี้อาจช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกกระบวนการในการลงทุนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานของนักลงทุนได้ด้วย

ในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวสำคัญๆ มักจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด กราฟจะวิ่งเร็วและแรงมากที่สุดด้วย นักเทรดหุ้น Forex ส่วนใหญ่นิยมเข้าไปเก็งกำไรในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงขนาดมีการเปิดสอนเทคนิค “การเทรดหุ้น Forex ตามข่าว” ซึ่งใช้เทรดเฉพาะช่วงเวลาข่าวสำคัญเลยทีเดียว นั่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำเงินจากตลาด Forex แต่ไม่ใช่สำหรับผม เพราะมันเสี่ยงเกินไปในสายตาของผม เทคนิคส่วนตัวเกี่ยวกับการเทรด Forex ตามข่าวของผม มีเพียงการใช้ข่าวสารทางเศรษฐกิจ เพื่อดูประกอบกับแนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคในภาพรวมใหญ่ก็เท่านั้น ผมจะไม่พยายามเข้าไปเดิมพันในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะมันอยู่ในช่วง 50/50 เราควรเทรด Forex เมื่อเราพิจารณาเห็นโอกาสแล้วว่า มันไม่ได้เป็น 50/50 เราจึงค่อยเอาเงินที่มีค่าของเราเข้าไปเสี่ยง อย่างนี้จึงจะถูกต้อง ถูกต้อง

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

ค่าคอมมิสชัน (Commission) ในการเทรดหุ้น Forex

ค่าคอมมิสชัน ในการเทรดหุ้น Forex

Forex คืออะไร?
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล Foreign Exchange Market เรียกโดยย่อว่า FOREX, Retail forex,FX หรือ Spot FX เป็นสถาบันตลาดการเงินที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายเกิน 4 ล้านล้านเหรียญต่อวัน



โบรคเกอร์ หุ้น forex ได้โฆษณามันเป็นยังไง
อันที่จริงการเทรดหุ้น forex นั้นต้องเสียค่าใช้จ่าย ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับการซื้อขายหุ้น หรือกองทุนในบ้านเราซึ่งมีค่าคอมมิสชันจะอยู่ที่ประมาณ 0.2% ของมูลค่าที่ทำการเทรด ดังนั้นการที่โบรคเกอร์ forex ส่วนใหญ่ ทำการตลาดโดยอ้างว่า ฟรีค่าคอมมิสชัน ที่จริงแล้วมันไม่จริงทั้งหมด และอาจทำให้เข้าใจผิดได้ ในตลาด forex นั้น คล้าย กับตลาดอื่น ๆ นั้นคือมีการตั้งซื้อ (Bid) และตั้งขาย (Ask) ราคาตั้งซื้อคือราคาที่เราสามารถขายได้ในขณะนั้น ส่วนราคาตั้งขายก็คือราคาที่เราสามารถซื้อได้ในขณะนั้น ผลต่าง ระหว่างราคาตั้งซื้อ และตั้งขาย นั้นเรียกว่า Spread ยกตัวอย่าง EUR/USD ราคา Bid ที่1.4156 และ Ask ที่ 1.4159 ดังนั้นค่า Spread ของ EUR/USD จะเท่ากับ 0.0003 หรือ 3 PIPS ถ้าเราทำการเปิด Order ทำการซื้อขณะนั้น เราจะซื้อได้ที่ 1.4159 และ Transaction ของเราจะขึ้นเป็น -3 PIPS ทันที ถ้าเราปิดออร์เดอร์ขณะนั้นโดยอัตราแลกเปลี่ยนยังไม่เปลี่ยนแปลงเราจะขายได้ที่ 1.4156 และขาดทุนทันที 0.0003 หรือ 3 PIPS จะเห็นได้ว่า ถ้ายิ่ง Spread กว้างมาก เราก็จะต้องจ่ายส่วนต่างนี้มากขึ้นไปด้วย ส่วนต่างตรงนี้เองที่ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ของโบรคเกอร์ และเรา หรือผู้เทรดจำเป็นจะต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิด Order ทำการเทรด บางคนอาจจะเห็นว่า เสียแค่ 0.0003 จากราคาประมาณ 1.4 นั้นไม่เท่าไหร่เอง ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นก็แค่ประมาณ 0.03% เอง แต่อย่าลืมนะครับว่าการเทรด Forex นั้นมีระบบ Leverage ถ้า Leverage ที่ 1:100 นั้นก็เสมือนว่าเราส่งคำสั่งซื้อด้วยเงินทุน 100 เท่าจากเงินทุนจริงของเรา ดังนั้นถ้าเทียบกับเงินทุนจริงของเรา มันจะไม่ใช่ 0.03% แต่มันจะเป็น 3% นั้นเอง หรือถ้าเทรดในระบบLeverage 1:500 จำนวนเงินตรงนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเป็น 15% ของเงินทุนจริงของเรา ว่ามันแพงหูฉี่เลยทีเดียว

ข้อดีของการเล่นหุ้น FOREX

- มีพอร์ทจำลอง DEMO ให้คุณทดลองเทรด มีเงินทุนให้นักลงทุนซ้อมเทรด 100,000 $ Leverage 1:2000 โดยแค่กรอกชื่อ-นามสกุล และ email เท่านั้นคุณก็สามารถ Downlond พอร์ท Demo มาซ้อมได้แล้ว เปิดพอร์ท Demo ใช้เงินปลอมคุณจะใช้เวลาทดลองเทรด กี่เดือน กี่ปี ก็ย่อมได้จนกว่าคุณจะเข้าใจ forex หมั่นฝกฝน หาความรู้ตามเว็บต่าง ๆ หาเทคนิคที่คุณชอบเทรดทีไรก็ได้ไว้เป็นอาวุธของคุณ หรือถามคนที่รู้ ที่มีประสบการณ์ในการเทรด forex

- การโอนเงินเข้าพอร์ทง่ายและเร็ว โดยฝากเงิน ถอนเงิน ผ่าน E-currency , Internet Banking, 7-11 และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือช่องทางอื่นก็ได้

- อารมณ์และความรู้สึกในการเทรดเงินจริงแตกต่างกับเงินปลอมโดยสิ้นเชิง คุณยังควบคุมอารณ์ไม่ได้ห้ามยังไม่สมควรลงทุนมากเพราะจะทำให้เงินในพอร์ทคุณเสียหายได้

- การโอนเงินกลับก็ง่ายและรวดเร็วเช่นกันบางโบรกเกอร์ใช้เวลาไม่ถึงนาทีเงินก็กลับมาเข้าบัญชีคุณแล้ว หากให้แนะนำก็มี EXNESS ที่โอนเงินได้ทันใจ คุณโอนกลับมาใช้ทุกวันก็ได้ ส่วนโบรกอื่นก็อาจภายใน 24 -48 ช.ม. แต่อย่างไงก็ได้เงินหากคุณต้องการถอน

- เงินทุนในการเริ่มต้น 1 - 10 $ และคุณไม่เคยเทรดเงินจริง ห้ามลงทุนเกิน 10 $ ถึงแม้ว่าคุณจะเทรด DEMO ชำนาญแล้ว ที่บอกแบบนี้เพราะเป็นห่วง -

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทำกำไรอย่างยั่งยืนกับการเทรด Forex

เทรด Forex กำไรยั่งยืนได้อย่างไร

มักจะมีการคุยกันในวงการนักลงทุนด้านการเงินในตลาดอื่น ว่าการเล่นForex นั้นไม่ค่อยมีคนสามารถหาเงินหรือทำกำไรในตลาดนี้มากสักเท่าไหร่ นั่นอาจจะเป็นความเชื่อหรือเรื่องที่พูดต่อๆกันไปที่เข้าใจกันไปเองว่าการเล่นเทรดForex นั้นไม่ยั่งยืน เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมีนักลงทุนในเทรดForex หลายคนมากที่ประสบความสำเร็จในวงการนี้แต่ไม่ได้เปิดเผยตัว โดยเทคนิคที่พวกเขาเหล่านั้นสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนกับ Forex นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากนักลงทุนForex อื่นๆทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ ความอดทนและการตัดสินใจ .... วันนี้ผู้เขียนจะขอนำบทความเกี่ยวกับการเทรด Forex กำไรยั่งยืน มาฝากนักลงทุนให้ได้อ่านกัน

- กำหนดต้นทุน ขาดทุน กำไร ในแต่ละวันให้ชัดเจน วิธีนี้เป็นการควบคุมให้คุณไม่เจ็บตัวมากจนเกินไป โดยการคุมต้นทุนการเล่นในแต่ละวันว่าหากเราเสียเราจะไม่เสียเกินเท่าไหร่หรือเวลาที่ได้เงินเท่าไหร่แล้วจึงควรจะพอเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยเงินมากเกินไป จงจำไว้ว่าให้เราเล่นเงิน ไม่ใช่เงินเล่นเรา

- เทคนิคเรื่องเวลา ด้วยความที่ตลาด Forex แต่ละตลาดจะเปิดในเวลาที่ไม่เท่ากันและการเฝ้าหน้าจอทั้งวันเป็นการทำที่เสียเวลา อีกทั้งยังทำให้คุณได้รับข้อมูลข่าวสารมากเกินไปจนรู้สึกสับสน ดังนั้น ห้ามนั่งเฝ้าหน้าจอ แต่ให้เลือกช่วงเวลาที่ชัดเจนเพื่อการเทรด Forex โดยเฉพาะ เช่น เลือกเวลา 22.00 – 24.-00 ในทุกๆวันเพื่อการเทรด การเลือกช่วงเวลาเช่นนี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและนั่นช่วยให้คุณทำกำไรจากการเทรดได้มากขึ้น

- เลือกคู่เงินเพื่อเทรดเพียงคู่เดียว ทำการเทรดคู่เงินเพียงคู่เดียวเพื่อให้เกิดความชำนาญในคู่เงินตัวนั้นๆ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณรู้ลึก รู้ละเอียดเกี่ยวกับคู่เงินตัวใดตัวหนึ่งไปเลย ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้คุณเทรด Forex กำไรยั่งยืนกว่าการจับคู่เงินหลายคู่ เพราะหลายคู่นั้นหมายถึงข้อมูลที่มากขึ้น ทำให้เกิดความสับสนและสุดท้ายก็เสียประโยชน์ไปทั้งหมดเนื่องจากไร้ความชำนาญในทุกคู่เงิน

- เครื่องมือช่วยเหลือสำหรับการเทรด นักลงทุนForex ส่วนมากนิยมใช้เครื่องมือสำหรับการเทรดโดยชุดเครื่องมือที่สำคัญ ได้แก่ EMA , MACD , Fibonacci , Rsi ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุน FBS มีความชำนาญด้านการวิเคราะห์เพื่อการเทรดให้กับคุณได้มากขึ้น เมื่อได้เครื่องมือมา ให้ทำการทดสอบว่าเครื่องมือตัวไหนที่ช่วยเราได้มากกว่า คือ เราใช้เครื่องมือตัวใดแล้วรู้สึกว่าอ่านง่ายกว่า ถนัดกว่าและช่วยในการวิเคราะห์ที่แม่นยำกว่า ให้เลือกใช้ตัวนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

ก่อน การเล่นหุ้น ต่างๆ ควรเตรียมตัวให้ดี

ก่อนลงทุน การเล่นหุ้นต่างๆ ควรเตรียมตัวให้ดีเสียก่อน

ขึ้นชื่อว่าการลงทุนนั้นล้วนแต่มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจของตนเอง , การลงทุนผ่านธนาคาร ร่วมไปถึงการเล่นหุ้น ก็นับว่ามีความเสี่ยงมากน้อยไม่แพ้กันเลยสักนิดเดียว ดังนั้นก่อนจะทำการลงทุนควรจะศึกษาการเล่นหุ้นอย่างเชียวชาญเสียก่อน ไปจนถึงประเภทของหุ้น และประเภทของนักลงทุนต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะนอกจากเราจะได้เปรียบเรานักลงทุนคนอื่นๆ แล้ว ยังสามารถรู้ทันตัวเองได้เป็นอย่างดีว่าชอบการลงทุนในรูปแบบใดได้ โดยสิ่งต่างๆ ที่ควรจะต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวก่อนจะลงทุนมีดังต่อไปนี้


1.ควรศึกษาหุ้นที่เราต้องการลงทุน หากเราต้องการจะลงทุนกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เราต้องจำเป็นที่จะศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ที่บริษัทนั้นๆ ระบุเอาไว้ภายในตัวหุ้นให้ดีเสียก่อน เช่น การหาข้อมูลของกิจการที่เป็นคนถือหุ้นตัวนั้นว่าทำอะไรบ้าง หรือศึกษาจุดสำคัญต่างๆ ที่หุ้นตัวนี้เด่นชัดมากที่สุด เพื่อจะได้วิเคราะห์ในอนาคตว่าหุ้นตัวนี้อีกหลายปีจะเดินไปในทิศทางใดได้บ้าง

2.เราถามใจตัวเองว่าชอบอย่างไร เรียกได้ว่ากระบวนการนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างที่สุดแล้ว เพราะนอกจากจะช่วยให้เรารู้ทิศทางและเป้าหมายของตนเองในการลงทุนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถช่วยให้เราไม่ต้องลงทุนตามใครหรือนักเลงหุ้นต่างๆ เพราะข้อเสียจากการลงทุนตามผู้อื่นนอกจากจะไม่มีอิสระในการตัดสินใจแล้ว ยังมีส่วนให้มีความหนักใจเมื่อต้องตัดสินใจอะไรบ้าง เช่น การขายหุ้น เป็นต้น

โดยที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นนับว่าเป็นแบบอย่างในการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยม และนักลงทุนมือใหม่ทุกคนควรจะศึกษาเอาไว้ และจำเป็นต้องพยายามคิดตามอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างตลอดเวลา ทำให้เหล่านักลงทุนต่างๆ ต้องหมั่นวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นนักเล่นหุ้นอันดับต้นๆ ของโลกนั้นเอง



นักลุงทุนทั้งหลายจะรู้จักกันดีว่ารูปแบบของหุ้นนั้นสามารถลงทุนได้อย่างหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเหล่านักเลงหุ้นที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการวิเคราะห์ในแต่ละรูปแบบของหุ้นได้เป็นอย่าง ซึ่งแน่นอนว่ารูปแบบที่ไม่เหมือนกันในแต่ละประเภทจึงทำให้การวิ่งหรือขึ้นลงของหุ้นจะแตกต่างกันไป ดังนั้นหากใครที่ไม่ทราบถึงแต่ละประเภทของหุ้นก็จะทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจลงทุนเอง และทำได้เพียงลงทุนตามบุคคลอื่นๆ เท่านั้น รวมไปถึงอาจจะไม่ทราบถึงรูปแบบในการลงทุนที่ตนชอบและต้องการได้จริงๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้ทันรูปแบบของหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างตลอดเวลาเป็นอย่างดี โดยก่อนอื่นผู้ที่จะเล่นหุ้นต้องถามตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าชอบรูปแบบของการลงทุนในรูปแบบใด เพราะในแต่ละประเภทจะมีทั้ง ถือหุ้นระยะยาว , การเก็งกำไร , การถือหุ้นในระยะสั้นๆ เน้นผลประโยชน์ที่รวดเร็วเป็นต้น ซึ่งในตลาดหลักทรัพย์ส่วนจะสามารถแบ่งประเภทของหุ้นได้มากถึง 7 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน และถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทเดียวกันแต่ไม่จำเป็นต้องมีหุ้นประเภทเดียวเท่านั้น โดยบริษัทหนึ่งสามารถมีหลายประเภทได้ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

1.Cyclical Stock เป็นรูปแบบหุ้นที่น่าท้าทายอย่างมากที่สุด เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบความท้าทายและความตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะหุ้นในประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนและกำไรที่สูงมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสขาดทุนได้ทุกเวลา แต่ก็มีการเติบโตของหุ้นที่รวดเร็วและต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

2.Value Stock เป็นประเภทของการเล่นหุ้นที่น่าลงทุนและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด และนักลงทุนจำนวนมากต่างก็ต้องการอย่างสูง แต่นับว่าหาได้น้อยเหลือเกินในปัจจุบันนี้ โดยรูปแบบ Value stock นั้นมีราคาหุ้นที่ไม่พุ่งแรงเหมือนหุ้นอื่นๆ แต่ก็มีการเติบโตในทุกๆ ปี สามารถถือได้ในระยะยาวเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงเป็นอย่างดี

3.Blue Chip นับว่าเป็นหุ้นที่เหล่านักลงทุนทั้งหลายชอบเป็นพิเศษ เพราะมันมีความมั่นคงในระดับที่สูง ไม่ต้องคอยกังวลว่าหุ้นจะวิ่งลงอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ อีกทั้งยังมีการปันผลอย่างสม่ำเสมอเป็นพิเศษ

cr.www.peacearch.com

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลงทุนในหุ้น ฉบับ “มนุษย์เงินเดือน”

ลงทุนในหุ้น ฉบับ “มนุษย์เงินเดือน” ทำอย่างไร?

การลงทุนในหุ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น “การเล่นหุ้น” เป็นสิ่งที่ “มนุษย์เงินเดือน” มองว่ามันเป็นความหวังและทางออกของอิสรภาพทางการเงิน แต่ถ้าไปถามเรื่องราวของหุ้นกับผู้ใหญ่ในรุ่นก่อนหน้าเรา โดนเฉพาะผู้ที่ผ่านวิกฤตการต้มยำกุ้ง เขาอาจจะให้ความเห็นแตกต่างกับเราไปในทำนองว่า หุ้นมันคือการพนัน อย่าเล่นเลย มันน่ากลัว อันตราย และจะบรรยายเหตุการณ์ที่มีคนพยายามฆ่าตัวตาย ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่ ม.3-ม.4 ได้ เวลาไปไหนต่อไหนก็จะมีแต่คนพูดเรื่องนี้ ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจหรอก เวลานั่งแท็คซี่พี่คนขับก็บรรยายให้ฟังเพราะว่าหลายคนทำงานประจำอยู่ เช่น ในภาคธนาคาร สถาบันการเงิน แต่ถูกปลดจากงานทั้งๆที่มีภาระหนี้ ต้องมาขับแท็คซี่เพื่อหารายได้แทน


ลาออกจากมนุษย์เงินเดือนมาเล่นหุ้นดีไหม?
ผมเชื่อว่าหลายคนมีความคิดเช่นนี้ โดยเฉพาะในช่วงหุ้นที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอยู่ต่อเนื่อง แน่สิ!!! แค่พูดถึงงานประจำยังอยากลาออกเลย พอคนเอาเรื่องการสร้างรายได้ด้วยการลงทุนในหุ้นมาใส่สมองแล้วยิ่งอยากลาออกเข้าไปใหญ่ งานอะร๊ายยย!!! นั่งอยู่กับบ้านกระดิกขา กดปุ่ม “Buy” หุ้นขึ้นๆๆๆ กดปุ่ม “Sell” ขาย ลงทุนซัก 100,000 บาท ขายตอนกำไรซัก 1-2% พอ ถ้าได้กำไรมาวันละ 1,000 – 2,000 บาท คิดไปคิดมา เทรดจันทร์ถึงศุกร์ 22 วันได้เดือนละ 44,000 บาท ได้เงินเดือนกว่าการทำงานประจำอีก และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้มีนักลงทุนหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายเข้ามาศึกษาการเล่นหุ้น สร้างผลกำไร และหลายคนเข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นแล้วก็พบว่า ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

“การออมหุ้น” เหมาะสมกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างไร?
หลายคนอยากจะสร้างความมั่งคั่งก็เลยลงมาการลงทุนในหุ้นเต็มตัว แบบเอาเป็นเอาตายเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ค้างไว้กะเทรดในเวลาทำงานก็มี ซึ่งผมเคยเห็นอยู่ไม่น้อยนะครับ เดี๋ยวนี้แอบเปิด iPad เล่นไม่ให้เจ้านายเห็นด้วย อิอิ เรื่องนี้มันจะทำให้เราถูกลดความมั่งของตัวเองได้อย่างง่ายๆ ในฐานะการเป็นมนุษย์เงินเดือนเองนั้นเราจะต้องให้เวลากับการทำงานของบริษัทให้มาก การที่มานั่งเล่นเทรดหุ้นก็อาจจะทำให้งานเสียได้ พองานเสียก็จะมีผลต่อการประเมินผลการทำงาน หรือถ้าหากคุณเทรดไปทำงานไปแล้วให้เวลากับการทำงานมากกว่า คุณอาจจะเสียเงินจากการเทรดก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วภาระกิจแรกของการไปสู่อิสรภาพจากการลงทุนคืออิสรภาพจากการห่างหน้าจอก่อน

cr.www.aommoney.com/

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฝึกเล่นหุ้น อย่างไรหุ้นให้รวย

ฝึกเล่นหุ้น อย่างไรหุ้นให้รวย

1.ท่านควรฝึกเล่นหุ้นที่มีลักษณะของการทำธุรกิจแบบผูกขาด หรือเป็นผู้นำในตลาด… ดำเนินธุรกิจในตลาดแบบผูกขาด แบบผู้ขายน้อยราย แบบกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด …ไม่ใช่ดำเนินธุรกิจในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ เพราะหุ้นแบบที่กล่าวไปจะมีกำไรสุทธิต่อยอดขายสูง มีปันผลในอัตราสูง หรือหากปัจจุบันยังไม่มีเงินปันผล แต่หากในอนาคตไม่มีใครจะเข้ามาแข่งขัน (ผูกขาด) ก็หมายความว่าหุ้นนี้จะราคาสูง ถึงแม้ว่าจะได้ปันผลต่ำ แต่ในระยะยาวจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น และจะได้ปันผลสูงในอนาคต อย่าง PTT, PTTEP เป็นต้น



2.ถ้าเป็นผม ผมจะเล่นหุ้นที่เตรียมตัวจะทะยานขึ้น ผมมักจะเล่นหุ้นที่มีลักษณะตามข้อ 1) คืออาจจะขาดทุนแต่เริ่มกำไร จากกำไรแล้วเริ่มเติบโตอย่างมั่นคง หุ้นลักษณะแบบนี้จะราคาถูกในตอนต้น หากถือไว้จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นเป็นอย่างมาก

3.นอกจากการเล็งหุ้นตามข้อ2) ผมยังรู้ว่าหุ้นทุกตัวนั้นจะมีวงจรชีวิต ดังนั้นผมจะซื้อหุ้นตอนที่หุ้นฟื้นคืนชีพจากจุดต่ำสุด คือธุรกิจเริ่มฟื้นตัว มีกำไร แต่ยังขาดทุนสะสม หุ้นลักษณะนี้ราคาจะต่ำ เหมาะแก่การลงทุนในระยะกลาง …ท่านจะได้กำไรมาก

4.เนื่องจากจำนวนหุ้นมีมากมายหลายร้อยตัว ผมจึงเฝ้าดูการซื้อขายของหุ้นแต่ละตัวในทุกวัน โดยดูจากข้อมูลในหนังสือพิมพ์ หรือจากแหล่งอื่นใด ผมจะดูให้รู้ว่า มีใครแอบไปเก็บหุ้นเอาไว้ในหน้าตักของตัวเองบ้าง เพราะก่อนการขึ้นของราคาหุ้นจะมีไอ้โม่งมาแอบเก็บของเสมอ

5.ก่อนจะไปฝึกเล่นหุ้นในขั้นตอนต่อไป ผมคงบอกกับท่านว่า พอผมเอะใจว่ามีคนเก็บหุ้นตัวนี้ ผมจะเริ่มดูว่าหุ้นนี้มีใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บ้าง รายย่อยถือจำนวนเท่าใด …งานนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่ารายใหญ่จะเก็บของกันวันละเท่าไร และเก็บนานกี่วัน …อย่างหุ้น 300 ล้านหุ้น หากมีรายย่อยถือ 30 ล้านหุ้น อาจมีปริมาณการซื้อขาย 2 ล้านหุ้น/วัน โดยที่ราคายังไม่เปลี่ยนแปลง ไอ้ปริมาณ 2.0 ล้านหุ้นที่ซื้อขายกันต่อวัน รายใหญ่อาจเก็บของ (หุ้น) ได้ประมาณซัก 30% ของ 2 ล้านหุ้น ท่านก็ลองคำนวณดูซิครับว่า จะต้องเก็บของกันกี่วัน ท่านเห็นว่ามีสัญญาณแบบนี้ ท่านก็กระโดดเข้าไปซื้อเลยครับ

6.การกระโดดเข้าไปซื้อเป็นเพราะ 1) มีสัญญาณการเก็บของชัดเลย + 2) หุ้นมีพื้นฐานดี + 3) หุ้นมีโอกาสกำไรสะสม + 4) หุ้นมีโอกาสปันผลสูง

7.หลังจากซื้อแล้ว รอเวลาให้หุ้นขึ้น แล้วขายในราคาที่ท่านพอใจ

8.ราคาหุ้นขึ้นเท่าไรจึงจะขายเป็นปัญหาของนักลงทุนทุกคน เพราะส่วนใหญ่มักจะขายเร็วไป …หุ้นยังวิ่งขึ้นไปต่อ …งานนี้ขอแนะนำให้ทดลองทวนกระแสนักวิเคราะห์หุ้นดู ถ้านักวิเคราะห์บอกว่าให้ขาย ลองไม่ขาย อาจจะรวยได้ แต่ถ้าขายก็อาจจะเจ็บใจนักวิเคราะห์ (สาเหตุเป็นเพราะ กราฟที่แสดงข้อมูลทางเทคนิค รายใหญ่สามารถสร้างได้ จะให้เป็นเส้นอะไร บอกสัญญาณอะไร เป็นเรื่องที่หมูเหลือเกิน)

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

อยากเล่นหุ้น ให้ได้กำไร

อยากเล่นหุ้น ให้ได้กำไรไม่ยากอย่างที่คิด

1. คิดว่าการเล่นหุ้นเป็นงานอดิเรก (Think trading as a hobby) : นักลงทุนทุกท่านคงทราบอยู่แล้วว่า งานอดิเรก นั้นเป็นสิ่งที่ "ว่างเมื่อไรก็ค่อยมาทำ หรือ มีอารมณ์อยากทำเมื่อไรก็มาทำ" แต่การเล่นหุ้นนั้นแตกต่างจากงานอดิเรกโดยสิ้นเชิง ซึ่งจริงๆแล้วนักลงทุน หรือ เทรดเดอร์ ต้องคิดเสมอว่า การลงทุน เปรียบเสมือน "ธุรกิจ" ของตนและต้องพยายามหาข้อมูล สร้างกลยุทธ์เพื่อสร้างกำไร และ ลดการขาดทุนให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ อยากเล่นหุ้น เพียงแค่อยากลอง

2. ไม่เคยวางแผนการลงทุน (Never prepare a Trading Plan) : แผนการลงทุนก็เปรียบเหมือนแผนที่การเดินทาง ถ้าเราขาดแผนที่นำทาง และยังต้องไปในสถานที่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยแน่นอนเป็นต้องหลงแน่ๆ และยิ่งไปกว่านั้น เวลาเจอทางตัน หรือ ทางที่เป็นอุปสรรคก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้นๆได้ จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งแน่นอนต้องเจ็บตัวไปตามๆ กัน เปรียบเสมือนการเล่นหุ้นที่ไม่มีแผนเวลาหุ้นขึ้นก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไร เวลาหุ้นลงก็ไม่รู้จะทำยังไง (ส่วนมากก็ถือไว้อย่างนั้น)



3. เข้าใจแต่ทำไม่ได้ (Understand but can't do it) : นักลงทุนบางท่านคิดว่าตนเองรอบรู้ทุกอย่างในการลงทุน แต่ถึงแม้จะรู้หมด แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้มันก็คงจะไม่เกิดผล

4. ไม่ปกป้องเงินทุนของตน (Not Protect Your Trading Capital) : ในการลงทุนข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากข้อหนึ่ง เพราะถ้าหากเปรียบการลงทุน หรือ การเทรดเป็นการออกรบ เงินทุนก็เปรียบเสมือนกองกำลังของคุณ ถ้าคุณจะต้องออกไปสู่รบโดยมีกำลังเพียงหยิบมือ (เทียบกับในตลาด) บางครั้งคุณก็ต้องหาพรรคพวก (ในที่นี้หมายถึงบางทีก็ต้องไปตามเขา) แต่ถ้าหาก ตลาดลง หรือ ไม่เป็นไปดั่งที่มันควรจะเป็น เราก็ควรจะมีการวางแผนในการล่าถอย ไม่ควรยืนหยัดต่อสู้ จนกองกำลังของเรา เริ่มร่อยหรอ เพราะ สิ่งที่สำคัญของการลงทุนนอกจากกำไรหรือผลตอบแทนที่ได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือ คุณต้องอยู่รอดให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งถ้าหากทุนคุณไม่เหลือหรือเหลือน้อยมากๆ จะเอากำลังที่ไหนไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น

5. ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแนวโน้มในตลาดตอนนั้นเป็นอย่างไร (Miss the trend) : อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ถึงแม้จะเป็นนักลงทุน หรือ เทรดเดอร์ ก็ตามก็ต้องซื้อได้ในราคาที่ต่ำ และ ไปขายในราคาที่สูงจึงจะได้ผลตอบแทน ซึ่งแปลว่า ต้องมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นหลังจากที่เราซื้อไปแล้วนั่นเอง จริงไหมครับ ? นักลงทุนหลายท่านอาจสงสัยว่าแล้วขาลงล่ะ เล่นได้ไหม เล่นได้ครับ ทำได้โดยการ Short Sell, Put DW, Short Future เป็นต้น ศึกษาการเล่นหุ้นขาลงเบื้องต้น แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการเล่นหุ้นขาลงเท่าไร ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเรารู้ว่าแนวโน้ม ณ ช่วงนั้นของตลาดหรือหุ้น เป็นอย่างไรจะช่วยให้เราทำกำไรได้ไม่ยาก และก็จะไม่เกิดอาการ "ซื้อหุ้นถูกแล้ว มีถูกกว่า" ซึ่งลักษณะนี้ก็จะทำให้ติดดอยอีกเช่นเคย อยากทราบวิธีการดูแนวโน้ม สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ใน Blog investmentory แห่งนี้ได้เช่นกัน การดูแนวโน้ม แบบง่ายๆ รวมไปถึง บทความที่เกี่ยวกับ ทฤษฎีดาว ก็จะทำให้นักลงทุนมองภาพแนวโน้มได้ลึกมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่สำคัญในการเล่นหุ้นให้เป็นนั้นไม่ใช่แค่อยากเล่นหุ้น แต่ต้องเล่นให้เป็นและให้ได้กำไร

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เทรด Forex อาชีพที่น่าสนใจ

ฟอเร็กซ์ (Forex) คืออะไร

Forex (Foreign Exchange Market) หรือเรียกสั้นๆว่า FX เป็นตลาดในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่างๆ ซึ่ง Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน ซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นทั้งโลกมารวมกันดังนั้นธุรกิจ เทรด Forex จึงเป็นธุรกิจที่น่าสจใจ



ได้มีการสำรวจนักศึกษาที่กำลังเรียนจบ ป.ตรี ว่าเมื่อจบมาแล้ว ปรารถนาทำงานอะไรมากที่สุด กว่าครึ่งตอบว่า ต้องการอาชีพอิสระ/เจ้าของกิจการ และที่น่าสนใจมากคือจำนวนหนึ่งต้องการมาเทรดหุ้นเป็นอาชีพ มีจำนวนไม่น้อยที่วาดฝันไว้ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าของกิจการ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีเวลาเป็นส่วนตัว และมี "อิสรภาพทางการเงิน" ซึ่งธุรกิจเทรด Forex เป็นธุรกิจที่น่าสนใจที่สุดขณะนี้ ขอให้ท่านค่อยๆ ศึกษาอย่าผลีผลาม ฝึกปรือจนอยู่ตัว จะพบว่า Forex เป็นธุรกิจที่น่าทำมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ ไม่ว่าท่านจะจบใหม่ หรือ ทำงานอยู่ หรือ เกษียณออกจากงาน เมื่อท่านฝึกปรือจนอยู่ตัวแล้ว ท่านจะรู้สึกว่า การทำกำไร วันละ 500-1000 บาท เป็นเรื่องธรรมดามากๆบางคนทำกำไรวันเป็นหมื่นเป็นแสนก็ยังเป็นเรื่องปกติ ท่านจะรู้สึกอุ่นใจ อิสระ รู้สึกชีวิตไม่ว่างเปล่าปล่อยชีวิตไปวันๆ ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร ไม่ต้องมีลูกน้อง ลูกพี่ เจ้านาย ให้ปวดหัว ไม่ต้องห่วงกลัวตกงาน สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว เดี๋ยวนี้สะดวก สามารถเทรดทางมือถือ tablet หรือ ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ต ดังนั้นไม่ว่าท่านจะไปไหน ทำธุระ ท่องเที่ยว สามารถทำได้หมด เหลืออย่างเดียว ฝึกปรือความสามารถจากบัญชีทดลองเทรด จากเงินเสมือนจริง ฝึกจนจำได้ว่า ทิศทางของกราฟขณะนี้ จะไปทางไหน จำข้อผิดพลาดต่างๆ กลับไปทบทวนทฤษฏีว่าผิดพลาดเพราะอะไร จะแก้ไขอย่างไร เมื่อตัวเลขต่างๆปรับตัวอย่างรวดเร็ว ปรับปรุงพัฒนาจนเข้าที่เข้าทาง จากนั้นเข้าร่วมการแข่งขันเทรดเดอร์ไม่ต้องลงทุนอะไรแม้แต่บาทเดียวถ้าท่านแข่งติด Top 5ท่านจะได้รางวัลตามที่เว็บกำหนดไว้ ถ้าท่านแพ้ท่านก็ไม่ได้เสียอะไร การแข่งขันจะมีทุก 2 อาทิตย์ แข่งไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ท่านยังไม่สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ ขออย่าเพิ่งเริ่มเพราะอาจจะทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้นขอให้ฝึกจากเงินเสมือนจริงจนได้กำไรสม่ำเสมอจริงๆหรือท่านจะเข้าแข่งขันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้รับรางวัล แล้วนำรางวัลมาเทรดจริง ท่านก็จะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย มีแต่ได้กับเจ๊าเท่านั้น หากท่านพร้อมจะลองเทรดเงินจริงให้เริ่มเทรด ในปริมาณน้อยๆโดยใช้ล๊อตต่ำสุด ได้เสียแต่ละครั้งไม่เกิน 1-3 $ เพื่อให้มันใจว่าที่ฝึกปรือมา ใช้ได้หรือไม่ จากนั้นท่านก็ค่อยๆเพิ่มตามกำลังของท่าน ถือว่าเป็นโอกาสของชนชั้นกลางที่มีรายได้ไม่มาก ที่จะสามารถเทรดทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับตนเองได้

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เริ่มต้นเล่นหุ้นอย่างไร

เล่นหุ้นอย่างไรในครั้งแรก สำหรับมือใหม่

1. ขั้นแรก ต้องเปิดพอร์ตก่อนวิธีเลือกบริษัทโบรกเกอร์ก็เลือกตามความสะดวกในการโอนเงินเลยก็ได้ บริษัทโบรกเกอร์ที่พ่วงธนาคาร ก็เช่น บัวหลวง Ksec แต่บัวหลวงจะมีอบรมให้ความรู้มือใหม่มากกว่า

2.บัญชีหุ้นมี 2 ประเภทคือ Cash balance กับบัญชี ATS , Cash balance คือคุณต้องโอนเงินเข้าไปฝากไว้ในพอร์ตเล่นหุ้นก่อน และซื้อหุ้นได้ในวงเงินของคุณเท่านั้น สำหรับมือใหม่แล้วถือว่าดีไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการโอนเงินเข้าไปเติมในพอร์ตภายหลังจากการซื้อขาย มีเงินเท่าไหนลงทุนเท่านั้น
ส่วนบัญชี ATS คือคุณมีสิทธิซื้อหุ้นก่อนแล้วโอนเงินไปจ่ายภายหลัง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องวางหลักประกันสูงกว่าตอนเปิดบัญชี
3.หลังจากคุณมีพอร์ตหุ้นเป็นของตัวเองแล้ว โหลดโปรแกรม Streaming มีทั้งใน Ios และ android เรียนรู้วิธีการ คี คำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง เวลาซื้อกับขายอย่ากดสลับกันนะคะ มือเก่าแล้วยังเคยกดผิด

4.ขั้นต้นจำนวนหุ้นขั้นต่ำในการซื้อขายคือ 100 หุ้น เช่นหุ้น ราคา 3 บาท ซื้อ 100 หุ้น เป็นเงิน 300 บาท ฉะนั้นคุณมีเงินน้อยก็เล่นหุ้นได้ค แต่ต้องเช็คค่า Commission ด้วยนะคะ ถ้าเล่นน้อยไปกำไรไม่คุ้มค่า Commission



5.วิธีการเลือกหุ้นขึ้นต้น กรณีผุ้ไม่เคยเรียนเทคนิคมาหรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจการมาก่อน ให้ลองเลือกหุ้น จาก SET 50 ดู อาจจะดูรายชื่อหุ้นจาก www.settrade.com เพื่อให้ไปศึกษากิจการให้รู้จักตัวย่อหุ้นเบื้องต้น หรืออาจจะดูจากหมวดอุตสาหกรรมเพื่อให้เข้าใจว่าหุ้นอะไรอยู่หมวดไหน หากกรณีเพิ่งเริ่มลงทุนจริง เลือกหุ้นที่เป็นที่รู้จักดีก่อน เช่น ADVANC DTAC CPALL PTT BGH

6.เมื่อคุณรู้จักหุ้นพื้นฐานดีแล้วคุณต้องรู้ว่าช่วงเวลานี้ ควรลงทุนหรือไม่ในภาพใหญ่ เช่น ดัชนี SET จะไปต่อไหม ในจุดนี้น่าลงทุนไหม หรือควรรอให้ปรับฐานก่อน เพราะส่วนใหญ่หุ้นที่มี Market cap สูงๆจะอ้างอิงดัชนี SET เป็นหลัก ภาพรวม SETลงหุ้นลง SET ขึ้นหุ้นขึ้น การรู้ภาพใหญ่ช่วยตัดความเสี่ยงในการลงทุนไปมาก ลงทุนหุ้นดีผิดจังหวะก็ขาดทุน ไม่พูดถึงมุมมองปัจจุบันนะคะเพราะมีหลากหลายความคิดเห็นว่าดัชนีจะไปต่อหรือไม่

7.พอรู้ภาพรวมดัชนีแล้วก็ต้องรู้จักหุ้นรายตัว ส่วนนี้ต้องศึกษา เช่น หุ้นมีปันผล หุ้นนี้ P/E เท่าไหร่ เพื่อดูว่าหุ้นถูกหรือแพง

8.จัดพอร์ต หากพอร์ตเล็กอาจลงทุนหุ้น 3-5 ตัวที่อยู่คนละหมวดอุตสาหกรรม ทำไมต้องคนละหมวดอุตสาหกรรม??? เพื่อกระจายความเสี่ยง เกิดมีข่าวร้ายต่อหนึ่งหมวดอุตสาหกรรม คุณจะได้ไม่ขาดทุนทั้งพอร์ต

อันนี้เขียนวิธีการศึกษาคร่าวๆ สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของดัชนีก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อหุ้นรายตัว หุ้นปั่น หุ้นมีข่าว หุ้นมาร์เกตติ่งเชียร์ อันนี้ใช้วิจารณาณให้มากๆ สำหรับคนไม่รู้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูทีละขั้น ส่วนคนที่เล่นมาก่อนเล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไป อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนต้องใช้เวลา เริ่มอย่างระวังดีกว่า

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เรียนรู้เรื่องหุ้น ก่อนเข้าสู่สนามรบจริง

เรียนรู้เรื่องหุ้น ก่อนเข้าสู่สนามรบจริง

หลายๆคนเห็นเพื่อนที่ทำงานเข้ามาเล่นหุ้นแล้วได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ได้เงินมาวันละหลายๆพันถึงหลายๆหมื่นบาทก็รู้สึกว่าการเล่นหุ้นมันเป็นเรื่องที่ง่าย และอยากเรียนรู้เรื่องหุ้น แล้วก็ไปเข้าแถวไปเปิด Port การลงทุนเพื่อหวังที่จะทำกำไรกับเขาบ้าง แต่พอเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดแล้วก็พบว่ามีความเสี่ยงเต็มไปหมด ถ้าได้กำไรก็นับว่าโชคดีไปแต่โดยส่วนใหญ่ที่เราจะพบกันเยอะก็คือ “การขาดทุน” ซึ่งก็อาจจะทำให้หลายๆคนเข็ดกับตลาดหุ้นและถอนตัวออกไป แต่ตลาดหุ้นยังเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของหลายๆคนที่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน แต่ถ้าเราทุกคนลงทุนและประสบความสำเร็จกันง่ายๆก็คงไม่มีคนขาดทุนในตลาดหุ้นกันแล้วใช่ไหม ของที่มันประสบความสำเร็จยากนี่ล่ะท้าทายแท้ๆ



สำหรับวันนี้เรามีเคล็ดลับ 5 ขั้นตอนมาบอกสำหรับทุกคนที่อยากเรียนรู้เรื่องหุ้น และอยากมาลงทุนหุ้นในครั้งแรกให้สามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัย

ข้อที่ 1 ตรวจสอบสิ่งที่เราลงทุนว่าผิดพลาดและสำเร็จอย่างไรบ้าง
สิ่งที่เราจะได้รับจากการลงทุนนั้นก็คงหนีไม่พ้น “กำไร หรือ ขาดทุน” ซึ่งทั้งหมดนั้นเราต้องมาเทียบกับแผนที่เคยวางเอาไว้ว่าประสบความสำเร็จมากขนาดไหน สิ่งใดที่เป็นจุดบกพร่องของเราบ้าง จุดไหนที่รู้สึกว่าเราดูไม่รอบคอบ จุดไหนที่เป็นสิ่งที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงในการลงทุนและนำกลับไปคิดในการวางแผนเพื่อใช้ในอนาคต บางครั้งก็อย่างที่ทราบกันนะ เราอาจจะฟลุ๊กก็ได้ หรือบางครั้งเราอาจจะคิดถูกแต่นิ่งไม่พอก็ได้ ทุกอย่างคือการเรียนรู้ที่เราต้องตรวจสอบและปรับปรุงเสมอ

ข้อที่ 2 หาความรู้ก่อน อย่าพึ่งใจร้อน ตลาดหุ้นไม่ได้หายไปไหน
ผมมักจะเตือนนักลงทุนมือใหม่เสมอว่า อย่าใจร้อน และ รีบลงทุนเพราะความโลภ บางครั้งพอเราเห็นหุ้นขึ้นเรื่อยๆ ก็รีบเปิดพอร์ทการลงทุนเอาเงินใส่เข้าไปเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้น 1 วันบ้าง 3 วันบ้าง ซึ่งจะทำเราเกิดความเสี่ยงมาก ผมถามบางคนว่า “รู้ไหมว่าที่ลงทุนไปกิจการเขาทำอะไร?” คำตอบที่ได้รับคือ “ไม่รู้อะพี่ เห็นหุ้นขึ้นเอาๆผมก็เลยซื้อ ว่าจะถือยาวเลย” เขาก็เลยแซวกันว่าถือติดดอยยาวก็ประการละเช่นนี้ล่ะ ใจเย็นๆตลาดหุ้นมันไม่ได้หายไปไหน เราสามารถลงทุนได้เสมอหากเราเข้าใจเกี่ยวกับมันได้อยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องรีบ

แน่นอนว่าเมื่อเราเข้ามาลงทุนใหม่ นั่นคือเรามีความเสี่ยงในการลงทุนจากความไม่รู้สูงอยู่แล้ว หากไม่รู้จะกลายเป็นการลดความมั่งคั่งของตัวเองได้ วิธีการที่น่าจะเริ่มต้นได้ดีก็คือลองศึกษาหาความรู้เรื่องหุ้นก่อน อาจจะเป็นการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีแหล่งข้อมูลมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นบนอินเตอร์เน็ทหรือหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ แต่สิ่งที่เราควรจะระวังก็คือเราควรศึกษาจากเวปไซต์และผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ

ข้อที่ 3 วางแผนการลงทุนและลงทุนในตลาดหุ้นจริง
แน่นอนว่า มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะได้เงินจากพอร์ทจำลองและการอ่านหนังสือไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่ได้ลงทุนซักทีก็ไม่สามารถทำให้เราสร้างอิสรภาพทางการเงินได้ การลงทุนจริงจึงต้องเกิดขึ้นเมื่อเราพร้อม และการที่เราจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้ก็ย่อมต้องวางแผนการลงทุนให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การจัดสรรเงินออมมาลงทุน การวางแผนจัดพอร์ทการลงทุนอย่างเหมาะสม โดยที่เราต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงอยู่เสมอ ไม่ควรลงทุนจนเกินตัวและควรจะตัดสินใจในการลงทุนต่างๆตามแผนที่ได้วางไว้

ข้อที่ 4 ฝึกฝนการวิเคราะห์ก่อน ลองใช้พอร์ทจำลองซื้อขายดู
อย่าลืมว่าหากเราใช้เงินจริงซื้อขายหุ้น เราก็อาจจะได้เงินจริงหรือเสียเงินจริง กรณีได้ก็ดี กรณีเสียเนี่ยแย่เลย การฝึกฝนในการวิเคราะห์การลงทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางเทคนิคหรือการลงทุนด้วยการดูพื้นฐานก็ตาม และหากเป็นไปได้เราก็อาจจะเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนอารมณ์ในการลงทุนด้วยพอร์ทการลงทุนจำลอง เพื่อให้เราได้ทราบว่าช่วงหุ้นขึ้นเป็นอย่างไร อารมณ์เราจะรู้สึกอย่างไร และช่วงหุ้นลงล่ะ เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง ทั้งหมดจะทำให้เราได้เห็นว่าในการลงทุนจริงๆนั้นจะต้องตัดสินใจอย่างไรให้เด็ดขาด แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนจำลองก็ย่อมต่างจากการลงทุนจริง การลงทุนจริงใช้เงินจริงย่อมมีอารมณ์ที่แตกต่าง การลงทุนจำลองก็มีวัตถุประสงค์ให้ได้ฝึกฝนเป็นสำคัญ

ข้อที่ 5 ทบทวนวิธีการลงทุน ศึกษา พัฒนา ความสามารถเป็นประจำ
เมื่อเราสามารถเรียนรู้การลงทุนด้วยตัวเองได้และพัฒนาเรื่อยๆเราจะหา “Style หรือ ความถนัด” ของเราเจอ และพบว่าทำอย่างไรเราจึงประสบความสำเร็จในการลงทุนตามวิถีทางของเราได้บ้าง สูตรสำเร็จนี้ผมพบว่ามันจะเป็นพื้นฐานการลงทุนและการตัดสินใจของแต่ละบุคคลที่ไม่มีใครลอกเรียนแบบได้ เราอาจจะเพิ่มเติมความรู้จากการศึกษาแนวทางอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อมาประยุกต์ใช้ในแบบฉบับของเรา นำข้อดีข้อเสียต่างๆมาพิจารณาและหยิบนำไปใช้อย่างเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างแนวทางในการลงทุนให้พัฒนาไปให้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ

ท้ายสุดนี้ต้องอย่าลืมนะว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง เราควรศึกษาให้รอบคอบก่อนการลงทุน ฝึกฝนและเรียนรู้กับการลงทุนอยู่เสมอ มีการวางแผนการลงทุนที่ดี รวมถึงปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมอยู่เสมอ เรียนรู้ พัฒนาทักษะความสามารถของเราอยู่เสมอและเราจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ระบบเทรด forex ที่ช่วยให้คุณทำกำไร

รวม 5 ระบบเทรด forex ที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้ทันที

Forex คืออะไร เป็นคำถามแรกสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้น Forex Exchange Market หรือทีเรียกกันว่าตลาด Forex บางทีก็เรียกว่า Spot market ,Retail forex หรือเรียกสั้นๆ ว่า fx หรือแม้แต่ spot ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวของคำว่า Forex ฟอเร็ก เป็นตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก(เค้าว่ากันอย่างนั้น) มีมูลค่าการซื้อ-ขาย 4 ล้านๆ ดอลล่าร์ต่อวัน ซึ่งถ้าคุณเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นในนิวยอร์ค(Newyork Stock Exchange)ที่มีมูลค่าเพียง สองหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์ต่อวัน แล้วคุณจะรู้ว่าตลาดฟอเร็กใหญ่โตมากและมีมูลค่ามากแค่ไหน ในความเป็นจริงแล้วตลาดฟอเร็กจะเท่ากับหรือมากกว่าสามเท่าของตลาดหุ้นและ ตลาดล่วงหน้ารวมกัน

กลยุทธ์ที่สำคัญประการหนึ่งในการเทรด forex นั้น คือการมี ระบบเทรด forex ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ที่สามารถช่วยให้คุณนั้นออกแบบการเทรด forex และการทำกำไรของคุณได้อย่างไม่ยากนัก สำหรับ เทรด forex ที่สำคัญ ที่ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มีรูปแบบและมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมๆกันเลย



เทรด forex โดยการเก็บข่าว
เทรด forex อีกรูปแบบหนึ่งที่ง่ายต่อการเทรด นั่นคือ ให้ดูจากกระแสข่าวเป็นหลัก ว่าเกิดกระแสเป็นข่าวดีหรือว่าข่าวร้าย เพื่อที่ว่าคุณนั้นจะได้เลือกที่จะเปิดออเดอร์ในช่วงเวลาที่มีข่าวนั่นเอง ซึ่งสูตรนี้นั้นก็สามารถกำไรได้มากอาจถึงระดับ 1000% ภายในเวลาแค่ชั่วลัดนิ้วมือเลย เทรด forex ด้วย EA
เทรด forex ที่ปลอดภัยที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งคือ การเทรด forex โดยอาศัยตัวช่วยอย่าง EA หรือ Expert Adviser ซึ่งสามารถช่วยให้คุณตัดเรื่องของจิตวิทยา เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณนั้นเกิดอาการจิตหลุดในขณะเทรด และทำให้คุณผิดพลาดได้

เทรด forex ด้วย CT
เป็นระบบเทรด forex แบบสุดท้ายคือการทำ Copy Trading ซึ่งช่วยให้คุณนั้นสามารถเลือกเทรดได้แบบง่ายๆ กับคนที่มีความสามารถในด้านการเทรด แล้วเราทำการ Copy กันไปเลย แบบนี้ก็ช่วยให้การเทรดของคุณนั้นทำกำไรได้ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

เทรด forex แบบสวยเทรน
ระบบแรกที่ผู้เขียนจะนำเสนอนั้นคือระบบที่เรียกว่าการเล่นสวนเทรน ซึ่งข้อดีของการเล่นแบบสวนเทรนนั้นจะช่วยให้คุณสามารถเลือกเก็บกำไรก้อนใหญ่ ประมาณ 10-300% ในช่วงเวลาไม่เกิน 60 นาที สำหรับกาวนเล่นสวนเทรนนั้นระบบที่ใช้จะมี Indicator ดังนี้คือ Bolinger Band, T&C Wonder,CPI V.15 โดยให้ทั้งสามอินดี้ให้สัญญาณครบ คุณก็เปิดออเดอร์ได้เลย

ระบบเทรด forex

เทรด forex แบบดูตามเทรน
เทรด forex แบบที่สองนั่นคือการเทรดแบบตามเทรน ในที่นี้หมายความว่าให้คุณนั้นทำการดูเทรนของ forex จากนั้นเลือกเล่นตามเทรน ว่าเป็นขาขึ้น หรือเป็นขาลง หรือเป็นแบบปรับฐาน ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะไม่เล่นปรับฐาน ให้เล่นแค่ ขาขึ้นและลงเท่านั้น อินดี้ที่ใช้กันเช่น MACD, RSI, Moving Average เป็นต้น

จริงๆแล้วระบบเทรด forex ยังมีอีกมากมายนะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณค้นพบเทรด forex ที่เหมาะสมกับวิธีการเทรด forex ของคุณแบบใด หรือไม่แน่ว่าคุณอาจพัฒนาระบบเทรด forex ที่เป็นแบบฉบับของคุณเองและทำการสอนคนอื่นๆก็สามารถทำได้

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

กลยุทธและการลงทุนเล่นหุ้น Forex

กลยุทธและการลงทุน


1.ยอมรับความจริงให้ได้หากเกิดการสูญเสียเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเริ่มต้นเทรด เล่นหุ้น Forex ควรจะตระหนักว่าไม่มีใครไม่เคยมีการสูญเสียในตลาดสกุลเงินกฎพื้นฐานก็คือการรักษากำไรให้ได้ และขาดทุนน้อยที่สุด นักเทรดที่เก่งไม่ได้หมายความว่าคุณเทรดได้มากได้เงินจำนวนมาก แต่นักเทรดที่คือคุณสามารถรักษาเงินทุนของคุณได้ยาวนานที่สุดไม่ใช่เมื่อลงทุนไปแล้วท้อถอยไม่สู้ทำใจไม่ได้เมื่อเกิดการสูญเสียแล้วเลิกเทรดไปเลยเสียดายความรู้และประสบการณ์ที่คนอื่นไม่มีโอกาส

2.อย่ากลัวความไม่แน่นอนของตลาดเงินตรานักเทรดเล่นหุ้น Forex จำนวนมากกลัวความไม่แน่นอนและความเสี่ยงของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผู้ที่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ รางวัลคือเงินเพิ่มขึ้นในพอร์ทของคุณ

3.การเข้าซื้อนั้นต้องมีความคิดอย่างรอบคอบทุกครั้งอย่าใจเร็วก่อนที่คุณจะเริ่มต้น การซื้อขาย,คุณควรจะกำหนดปริมาณเงินของคุณเองที่จะสูญเสียเท่าไร (stoploss)และสิ่งที่คุณคาดหวังกำไร(take profit)เท่าไร และควรมีเป้าหมายอย่างชัดเจน

4.อารมณ์สาเหตุของการสูญเสียมักจะตั้งอยู่ใน ประมาทมากเกินไปปิดอารมณ์ ในระหว่างการ ซื้อขายในการแผนของคุณและอย่าลืมที่จะกำหนดคำสั่งstoplossเพื่อหยุดการสูญเสียและต้องทำใจให้ได้อย่าปล่อยไปโดยไม่รู้ทิศทางว่าจะกลับมาที่เดิมเมื่อไหร่มันน่ากลัวตัดขาดทุนแล้วเริ่มต้นใหม่โอกาสเอาคืนนั้นมีทั้งวัน

5. อย่าคิดว่าขออีกหน่อย นั่นเป็นหายนะของคุณ เพราะคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่มีวินัยต่อตนเอง จริงแล้วผมเองก็เป็นประจำขออีกนิดนะ ในที่สุดติดลบจนได้ นั่งเสียดายทีหลัง“รู้อย่านี้ขายเอากำไรไปก่อนสะก็ดี555!เจ็บตัวอีกแล้ว”

6.ความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของคุณเชื่อมั่นตัวคุณเองอย่าเชื่อคนอื่น เมื่อคุณกำหนดแผนของการลงทุนไว้แล้ว ควรปฏิบัติตามแผนนั้นอย่าเคร่งครัด เมื่อกำไรหรือขาดทุน คุณก็ควรทำใจให้เป็นกลางอย่าดีใจหรืออย่าเสียใจ ถ้าอารมณ์คุณผิดปกติเมื่อคุณจะตัดสินใจซื้อครั้ง ต่อไปและจะเกิดการผิดพลาดได้ควรหยุดเล่นไปก่อน

7.อย่าให้ความโลภใช้เวลามากกว่าเมื่อเริ่มซื้อประสบความสำเร็จมีกำไรคุณตามเป้าหมายแล้ว อย่าเด็ดขาดอย่าคิดว่ามันน่าจะไปอีกให้รีบขายเอากำไรทันที

8.แนวโน้มเพื่อนของคุณอย่าเชื่อเพื่อน เอาตัวคุณเป็นที่ตั้งได้ก็ตัวเราเสียก็ตัวเรา

9.หากวันนั้นเริ่มต้นไม่ดีให้ถอยออกมาทันทีหรือไม่ก็หยุดเล่นวันนั้นไปเลยไม่ควรคิดเอาคืนทันทีไม่เช่นนั้นอารมณ์ขาดการควบคุม พาลจะเสียต่อได้

10.เทรดหลายครั้งชนะติดต่อกันเกิดความมั่นใจมาขึ้น ก็เลยเพิ่ม เงิน มากขึ้นตามลำดับแต่พอตลาดเปลี่ยนทิศทางกลับกลายเป็นกำไรที่ได้มาหมดไปในพริบตาแถมยังขาดทุนเข้ามาแทน ที่ก็เลยลดเงินทุนน้อยลงเพราะขาดความมั่นใจและเกิดความกลัวเมื่อตลาดถูกทิศทางก็เลยได้คืนน้อยได้ไม่คุ้มเสียทำให้พอร์ทเสียหายเหตุเกิดจากไม่มีวินัยในตัวเองและไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเราเอง

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

4 เคล็ดลับ ที่ทำให้การ เล่นหุ้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็ได้กำไร

รู้ไว้ไม่เจ๊ง! 4 เคล็ดลับ เล่นหุ้น อย่างไร กำไรล้วนๆ

ในการลงทุน เงินทุนยิ่งมากก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่แนะนำว่าเริ่มต้นที่ 100,000 บาทก่อนก็ดี เก็บความรู้เก็บประสบการณ์ไปก่อน ถ้าเก่งแล้วค่อยเพิ่มทุน ก็ยังไม่สายเกินไป ที่จริงแล้วการจะใช้เงินทุนเท่าไหร่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบการลงทุน ของเพื่อนๆ นักลงทุนเป็นแบบไหน และลงทุนในหุ้นตัวไหน มีน้อยก็เริ่มจากลงทุนน้อยๆ ได้ แต่สำคัญที่ว่าเงินที่นำมาลงทุนในหุ้นนี้ ต้องเป็นเงินเย็น เงินที่เรากันไว้จากเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันปกติแล้ว เป็นเงินที่เราไม่ได้จำเป็นต้องดึงกลับมาใช้ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะอาจจะเกิดปัญหาที่ว่าเงินยังไม่ได้ออกดอกออกผลตามที่ควรจะเป็น กลับต้องดึงกลับมาใช้จ่ายซะแล้ว จะเสียประโยชน์ในระยะยาวเสียเปล่าๆ

สุดยอดคำถามที่นักลงทุน หรือขาหุ้นทั้งหลายมักจะเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะกับตัวเองหรือผู้เชี่ยวชาญ หรือเซียนหุ้นทั้งหลาย ว่า ‘ เล่นหุ้น อย่างไร ให้ได้กำไร?’  ต้องมีเทคนิคอะไรบ้าง ศึกษาจากที่ไหน สำหรับคำตอบนี้เป็นคำถามที่ตอบได้ง่ายมาก ๆ

เล่นหุ้น

นั้นก็คือ เพียงแค่ ‘ขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าตอนเราซื้อมา ก็ได้กำไรแล้ว’  สำหรับคำตอนนี้ไม่ได้กวนแม้แต่น้อยเลย เพราะมันคือเรื่องจริงใช่ไหมละ เรามาดู 5 เทคนิคการเล่นหุ้น อย่างไรให้ได้กำไรล้วน

  1. ถามตัวเองเดี๋ยวนี้! ว่ารู้จักหุ้นดีแค่ไหน หลาย ๆ คนคงตอบได้ทันทีว่าหุ้นคืออะไร ทำไมต้องถาม แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ การที่เราจะนำเงินที่เรามีอยู่ไปซื้อหุ้นตัวไหนสักตัว นั่นหมายความว่าเราได้เข้าไปเป็นเจ้าของกิจการนั้นด้วยเพราะฉะนั้นเราควรจะต้องรู้จักข้อมูลพื้นฐานของหุ้นที่เราจะซื้อ ทั้งในเรื่องของแนวโน้มธุรกิจ จุดแข็งจุดอ่อน ปัจจัยที่จะกระทบต่อการดำเนินงาน ไม่ใช่รู้จักหุ้นตัวนั้นจาก ‘เค้าบอกมา’ หรือ ‘วงในเค้าว่าดี’ อันนี้ไม่มีจริงในโลก เงินของเรา ก็ต้องใช้การตัดสินใจของเรา
  1. ต้องใช้ ‘เงินเย็น‘ เท่านั้น ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อหนึ่งที่นักลงทุนจะต้องพึงระวังไว้ให้มาก เพราะ ‘เงินเย็น’ ในที่นี้หมายถึงเงินที่เราสามารถปล่อยให้เสียไปโดยไม่เดือดร้อนนั่นเอง หมายถึงเงินที่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา เช่นเอาเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถมาเล่นหุ้น อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างมาก เล่นหุ้นได้ก็ต้องรับผิดชอบภาระตัวเองได้ อย่าเอาเงินที่จำเป็นต้องใช้มาเล่นเป็นอันขาด
  1. กำไร! ถ้าอยากได้กำไร ข้อนี้เป็นสัจธรรมที่หลาย ๆ คนคงเข้าใจดี อะไรที่อยากได้มาก ๆ มักจะไม่ค่อยได้หรอก โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แล้วด้วย หุ้นก็เช่นกัน อย่าไปหวังกำไรมากมาย เอาแค่สามารถรักษาต้นทุนได้ก่อน
  1. ต้องปรับทัศนคติจากการเล่นหุ้น เป็น การลงทุน มากกว่าเพราะสองคำนี้แตกต่างกันที่เป้าหมาย การเล่นหุ้น มักจะหมายถึงการเล่นที่ต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น แต่การลงทุนต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือมูลค่าของหุ้นในอนาคต ดังนั้นมือใหม่ทุกคน คิดใหม่ทำใหม่ เริ่มต้นลงทุนระยะยาว อย่าคิดที่จะซื้อขายหวังกำไร เพราะสุดท้ายแล้ว ‘เจ็บจนชิน’ เลยนะ
สำหรับ 4 ข้อนี้อาจจะเป็นแค่เพียงหลักการ หรือวิธีคิดเบื้องต้นเท่านั้น การลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ และยิ่งการลงทุนเพื่อให้ประสบความสำเร็จแล้วนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน ‘ความรู้’ และ ‘ประสบการณ์’ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้น จะลงทุนครั้งต่อไป ต้องคิดให้มาก ๆ

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

เทรด Forex ที่คุณควรรู้

การเทรด Forex ที่คุณควรรู้

สวัสดีทุกๆ ท่านครับที่หวังจะรวยและทำเงินกับ Forex Trading ก่อนอื่นเราก็ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Forex คืออะไร มีการซื้อขายมากมายแค่ไหน

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล Foreign Exchange Market เรียกโดยย่อว่า FOREX หรือ Retail Forex” หรือ FX หรือ Spot FX หรือเพียงแค่ Spot เป็นสถาบันตลาดการเงินที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายเกิน 4 ล้านล้านเหรียญต่อวัน ถ้าเราเปรียบกับ 25 ล้านเหรียญ ต่อวัน ของปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นนิวยอร์ค คุณจะเห็นความมหึมาของตลาดเงินตราสากล ความจริงแล้วมันก็ประมาณ 3 เท่าของตลาดหุ้นทุกชนิดในโลกรวมกัน นี่คือความยิ่งใหญ่ของ Forex

การลงทุน forex หรือการเทรด forex นั้นคุ้มหรือไม่ คำตอบก็คือการเทรด forex ก็เหมือนเทรดหุ้นทั่วไป คือมีกำไรมีขาดทุน แต่ที่ไม่เหมือนหุ้นก็คือไม่มีปันผลครับ เพราะว่าการเทรด forex เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงินว่าจะมีขึ้นหรือลงเท่านั้น  แต่ข้อดีกว่าของการเทรด forex คือเราสามารถทำกำไรได้ทั้งค่าเงินลดหรือค่าเงินเพิ่มซึ่งตรงนี้และครับที่เป็นจุดเด่นของ forex

เทรด Forex

ใช้อะไรในการค้าเงินตรา
คำ ตอบที่ง่ายที่สุดก็คือ เงิน ตลาด ฟอเรกซ์ เป็นตลาดที่ทำการซื้อหนึ่งสกุลและขายอีกหนึ่งสกุลได้ในทันที สกุลค้าขายโดยผ่ายตัวแทน โบรกเกอร์ (Broker) หรือ ตัวแทน (Dealer) และซื้อขายกันเป็นคู่ต่างสกุลเงิน ยกตัวอย่างเช่น เงินดอล์ล่ายูโร กับ ดอล์ล่าอเมริกา หรือ เงินปอนด์อังกฤษ กับ เงิน เยน ญี่ปุ่น

เป็น เพราะว่าคุณไม่ได้ซื้อสิ่งของที่จับต้องได้ การค้าชนิดนี้อาจจะเข้ายากสักนิด อาจคิดเหมือนกับว่าการซื้อสกุลเงินเป็นการซื้อหุ้นของประเทศนั้น ๆ เมื่อคุณซื้อเงิน เยน ญี่ปุ่นเท่ากับคุณซื้อหุ้นเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น เพราะค่าของสกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น เป็นผลสืบเนื่องโดยตรง ที่ตลาดเล็งถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคตของประเทศญี่ปุ่น


ตลาด forex
 นั้นเป็นตลาดที่เมื่อทำการซื้อหนึ่งสกุลเงินและจะเป็นการขายอีกหนึ่งสกุลเงินไปในเวลาเดียวกัน โดยการค้าขายสกุลเงินจะทำผ่านโบรกเกอร์ (Broker) หรือตัวแทน (Dealer) ตลาด forex จะไม่มีสถานที่ตั้งหรือสำนักงานใหญ่ เหมือนตลาดหุ้นอื่น ๆ ตลาด forexจึงถูกจัดอยู่ในประเภท Over the Counter (OTC) การเทรดค่าเงินต่าง ๆ จะเป็นการเทรด forex ผ่านระบบออนไลน์โดยที่ไม่ต้องมีสถานที่จริงทำให้นักลงทุนรายย่อยจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงตลาด forex นี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตเท่านั้น

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

การเล่นหุ้นเบื้องต้นเริ่มต้นอย่างไร

การเล่นหุ้นเบื้องต้นเริ่มต้นอย่างไรศึกษาก่อนลงสนามจริง

หลายคนมีความคิดอยากเล่นหุ้น แต่ในใจยังกล้า ๆ กลัว ๆ และไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน ต้องเปิดบัญชีอย่างไร ใช้เงินแค่ไหน แล้วซื้อขายอย่างไร เราได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานสำหรับการเล่นหุ้นเบื้องต้นที่มือใหม่อยากเล่นหุ้นด้วยตัวเองมาบอกให้รู้กัน

รู้จักสักนิด หุ้น คืออะไร
หุ้น (Stock) ก็คือตราสารทุนที่บริษัทนั้นออกและเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป เพื่อระดมทุนนำเงินที่ได้ไปลงทุนในกิจการของบริษัทนั้น ทั้งนี้ เมื่อเราลงทุนไปในหุ้นของบริษัทใด เราจะมีฐานะเป็น "เจ้าของกิจการ" ของบริษัทนั้น ถ้าบริษัทดำเนินไปได้ดี เราก็จะได้กำไร แต่ถ้าบริษัทมีปัญหา เราก็ประสบปัญหาขาดทุนได้ นี่ก็คือความเสี่ยงที่ได้จากการลงทุนในหุ้น ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน



ขั้นตอนการเล่นหุ้นเบื้องต้น
  1. เปิดบัญชีหุ้น
การจะเล่นหุ้นได้ ขั้นแรกต้องเปิดบัญชีหุ้นเสียก่อน โดยยื่นเอกสารสมัครได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ หรือที่นักลงทุนเรียกว่า "โบรกเกอร์" (Broker) ซึ่งมีอยู่หลายบริษัทให้เลือก
แต่ถ้าใครมีบัญชีเงินเดือนอยู่ธนาคารไหน สามารถเข้าไปสมัครที่ธนาคารสาขาต่าง ๆ ได้เลย แล้วธนาคารจะส่งเรื่องต่อไปยังบริษัทหลักทรัพย์ของตนเองอีกที เช่น บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกรุงเทพ, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกรุงศรีฯ
นอกจากนี้ บางธนาคารยังสามารถสมัครทางออนไลน์ได้เลย เช่น บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ ที่แค่กรอกข้อมูลและส่งเอกสารผ่านทางออนไลน์ก็สามารถเปิดบัญชีได้ โดยไม่ต้องไปสมัครถึงธนาคาร
  1. เลือกให้ดีจะเปิดบัญชีแบบไหน
ในการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นนั้น เราต้องเลือกด้วยว่าจะเปิดบัญชีแบบบัญชีเงินสด (Cash Account), บัญชีเงินฝาก (Cash Balance) หรือบัญชีเงินกู้ยืม (Credit Balance Account) ซึ่งแต่ละบัญชีแตกต่างกันตามนี้
2.1บัญชีเงินสด (Cash Account)
เป็นบัญชีที่ต้องชำระค่าหลักทรัพย์เต็มจำนวนด้วยเงินสด โดยโบรกเกอร์จะพิจารณาอนุมัติวงเงินที่นักลงทุนจะสามารถ ใช้ซื้อหลักทรัพย์จากหลักฐานการเงิน แต่จะต้องฝากเงินเพื่อเป็นหลักประกัน (15%) ทั้งนี้จะต้องชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ซื้อหลักทรัพย์ซึ่งนักลงทุนสามารถโอนเงินหรือตัดเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS) ส่วนในกรณีที่ขายหลักทรัพย์นักลงทุนจะได้รับชำระค่าขายหลักทรัพย์จากโบรกเกอร์ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ขายหลักทรัพย์

  2.2 บัญชีเงินฝาก (Cash Balance Account)
สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 5,000 บาท เป็นบัญชีที่นักลงทุนสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้เท่ากับจำนวนเงินที่นำมาฝากไว้กับทางโบรกเกอร์ก่อน การซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้เงินฝากของนักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากตามอัตราที่โบรกเกอร์กำหนด

  2.3 บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance Account)
เป็นบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งต้องเสียอัตราดอกเบี้ยตามที่โบรกเกอร์กำหนด โดยนักลงทุนจะต้องวางเงินสดหรือหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นประกัน
  1. ศึกษาโปรแกรม Streaming Pro สำหรับเล่นหุ้น
เมื่อได้รับอนุมัติเปิดบัญชีแล้ว เราจะได้เลขที่บัญชี และรหัสผ่านเพื่อล็อกอินเข้าไปในหน้าเว็บของโบรกเกอร์ เมื่อเข้าไปแล้วเราจะรู้จักกับโปรแกรมที่ชื่อว่า Streaming Pro ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้เราใช้ส่งคำสั่งซื้อขายเรียลไทม์ สามารถใช้เองได้ไม่ยากเลย

  1. โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเตรียมซื้อหุ้น
สำหรับมือใหม่ อาจทดลองเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนไม่มากก่อน ซึ่งขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท ก็สามารถเล่นหุ้นได้ (โปรดตรวจสอบกับแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณสมัครก่อนอีกครั้ง ซึ่งเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า "โบรกเกอร์")

  จากนั้นทำตามขั้นตอนนี้
5.1 โอนเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ (ตรวจสอบเลขที่บัญชีได้จากโบรกเกอร์ที่สมัครไว้)
5.2 เมื่อโอนเงินแล้วจะต้องแจ้งวันเวลาที่โอนเงิน จำนวนเงินที่โอนกับโบรกเกอร์ โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์) ของโบรกเกอร์นั้น หรือแจ้งทางระบบอินเทอร์เน็ตก็ได้ (ขึ้นอยู่กับระบบของแต่ละโบรกเกอร์เอง)
5.3 ตรวจสอบยอดเงินในโปรแกรม Streaming Pro ว่ายอดเงินตรงกับที่เราโอนเข้าไปหรือไม่

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

หุ้น Forex คืออะไร เหมาะสมลงทุนหรือไม่

การซื้อหุ้นกับบริษัทในตลาดหุ้น ดีกว่าการร่วมหุ้นกันเองทั่วไปอย่างไร
  • การโกงทำได้ยาก หรือมีโอกาสน้อยกว่า เนื่องจากมีการควบคุมโดยหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์อีกที
  • ได้ลงทุนกับธุรกิจที่มีความมั่นคงกว่า บริษัทในตลาดหุ้น เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นแม้ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ก็มีโอกาสรอดรวมถึงได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐหรือธนาคารมากกว่า ร้านค้าหรือธุรกิจขนาดเล็กทั่วไป
  • มีสภาพคล่องสูงกว่า หมายความว่าหุ้นสามารถเปลี่ยนกับมาเป็นเงินได้เร็วกว่า หากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือเห็นว่าต้องการถอนหุ้น ก็สามารถขายหุ้นในตลาดได้ทันที
  • เราไม่ต้องบริหารธุรกิจเองเหมือนการร่วมหุ้นกับเพื่อน ถึงแม้ว่าบางทีร่วมหุ้นกับเพื่อนเราลงเงินเฉยๆ ไม่ได้บริหารเองก็ตามที แต่เมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้น ที่เขามีผู้บริหารตลอดจนทีมงานฝีมือดีๆ มาดูแลแทนให้แล้ว ผมว่ามันอุ่นใจกว่ากันเยอะ

หุ้น Forex คืออะไร เหมาะสมลงทุนหรือไม่
การลงทุนหุ้น forex หรือการเทรดหุ้น forex นั้นคุ้มหรือไม่ คำตอบก็คือการเทรดหุ้น forex ก็เหมือนเทรดหุ้นทั่วไปครับ คือมีกำไรมีขาดทุน แต่ที่ไม่เหมือนหุ้นก็คือไม่มีปันผลครับ เพราะว่าการเทรดหุ้น forex เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงินว่าจะมีขึ้นหรือลงเท่านั้น  แต่ข้อดีกว่าของการเทรดหุ้น forex คือเราสามารถทำกำไรได้ทั้งค่าเงินลดหรือค่าเงินเพิ่มซึ่งตรงนี้และครับที่เป็นจุดเด่นของฟอเร็กซ์

การเทรดฟอเร็กซ์ผมคิดว่ามีข้อดีกว่าการเล่นหุ้นไทยตรงที่ว่าไม่ต้องห่วงว่าจะมีการทุบหุ้นหรือปั่นหุ้น



เพราะเงินตราเป็นระบบเศรษฐกิจระดับประเทศไม่มีใครทุบเงินใครได้ง่ายเพราะเงินตราที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้น forex นั้นมีแต่เงินของประเทศที่มีความมั่นคงสูงเช่น เงินตรา  USD(ยูเอสดอลล่า)  JPY(เจแปนนิสเยน)  EUR(ยูโร)  CHF(สวิสฟรังส์) GBP(ปอนด์สเตอริง) เป็นต้น

ซึ่งตรงนี้แหละครับเราไม่ต้องกังวลอะไรอีกดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับเราครับว่าจะศึกษาหาข้อมูลดูเศรษฐกิจว่าเป็นอย่างไร อะไรมีผลต่อค่าเงิน ข้อมูลและการวิเคราะห์ของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ  ขึ้นอยู่กับตัวผู้เทรดหุ้น forex เองล้วน วัดความสามารถการวิเคราะห์ ซึ่งผมเชื่อถ้าเราตั้งใจจริงๆเราทำได้ครับ ที่ผ่านมาผมเห็นคนเล่นหุ้นหรือเทรดหุ้น forex ล้มเหลว ก็เพราะไม่ศึกษาข้อมูลครับ โดยคนเหล่านั้นเทรด forex แบบการพนันครับคือเสี่ยงดวงซื้อหรือขายโดยไม่ศึกษาวิธีการเทรดเลย ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนนึงที่มีความพร้อมที่จะศึกษาและไม่เป็นคนประเภทชอบเสี่ยงดวง ผมคิดว่าฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่ทำกำไรได้มากครับเมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ลงไป เอาไว้ผมจะมาอธิบายรายละเอียดให้ในหัวข้ออื่นครับ

อย่างสุดท้ายครับหากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ ตลาดหุ้น forex มีระบบให้เราทดลองเทรดครับทุกอย่างเหมือนจริงหมดครับ เข้าซื้อขายตามสภาวะตลาดจริง  แนะนำคุณทดลองเล่นจนเก่งก่อนครับแล้วค่อยเทรดจริง

วิธีเล่นหุ้นเบื้องต้นสำหรับมือใหม่

หุ้นคืออะไร


 หุ้นคือ ตราสารที่ออกโดยบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือ สหกรณ์ หุ้นมีหลายชนิด คือ
  • หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock) คือหุ้นที่มีความเป็นเจ้าของ ผสมกับความเป็นเจ้าหนี้ด้วย โดยที่ถ้าบริษัทนั้นๆต้องเลิกกิจการลง ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับส่วนแบ่งก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
  • หุ้นทุนหรือหุ้นสามัญ (Common Stock) คือหน่วยของความเป็นเจ้าของ ในบริษัท สหกรณ์ หรือกิจการอื่นที่ระบุให้แบ่งหน่วยความเป็นเจ้าของเป็นหุ้นตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่มีถืออยู่ ผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นได้มากเท่ากับสัดส่วนของหุ้นที่ถือ ถ้าผู้ถือหุ้นคนใดถือหุ้นเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่กิจการออกทั้งหมด จะมีสิทธิ์ตั้งฝ่ายจัดการของกิจการได้
  • หุ้นกู้ (Debenture) คือตราสารที่กิจการออกเพื่อเป็นการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการ โดยจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นเป็นผลตอบแทน กรณีที่เลิกกิจการผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับเงินที่ลงทุนในหุ้นกู้คืนก่อน เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้ของกิจการ




วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่สุดๆ
1.ขั้นแรก ต้องเปิดพอร์ตก่อนวิธีเลือกบริษัทโบรกเกอร์ก็เลือกตามความสะดวกในการโอนเงินเลยก็ได้ บริษัทโบรกเกอร์ที่พ่วงธนาคาร ก็เช่น บัวหลวง Ksec แต่บัวหลวงจะมีอบรมให้ความรู้มือใหม่มากกว่า
2.บัญชีหุ้นมี 2 ประเภทคือ Cash balance กับบัญชี ATS , Cash balance คือคุณต้องโอนเงินเข้าไปฝากไว้ในพอร์ตหุ้นก่อน และซื้อหุ้นได้ในวงเงินของคุณเท่านั้น สำหรับมือใหม่แล้วถือว่าดีไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการโอนเงินเข้าไปเติมในพอร์ตภายหลังจากการซื้อขาย มีเงินเท่าไหนลงทุนเท่านั้น
ส่วนบัญชี ATS คือคุณมีสิทธิซื้อหุ้นก่อนแล้วโอนเงินไปจ่ายภายหลัง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องวางหลักประกันสูงกว่าตอนเปิดบัญชี
3.หลังจากคุณมีพอร์ตหุ้นเป็นของตัวเองแล้ว โหลดโปรแกรม Streaming  มีทั้งใน Ios และ android เรียนรู้วิธีการ คี คำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง เวลาซื้อกับขายอย่ากดสลับกัน มือเก่าแล้วยังเคยกดผิด
4.ขั้นต้นจำนวนหุ้นขั้นตำ่ในการซื้อขายคือ 100 หุ้น เช่นหุ้น ราคา 3 บาท ซื้อ 100 หุ้น เป็นเงิน 300 บาท ฉะนั้นคุณมีเงินน้อยก็เล่นหุ้นได้ แต่ต้องเช็คค่า Commission ด้วย ถ้าเล่นน้อยไปกำไรไม่คุ้มค่า Commission
5.เมื่อคุณรุ้จักหุ้นพื้นฐานดีแล้วคุณต้องรู้ว่าช่วงเวลานี้ ควรลงทุนหรือไม่ในภาพใหญ่ เช่น ดัชนี SET จะไปต่อไหม ในจุดนี้น่าลงทุนไหม หรือควรรอให้ปรับฐานก่อน เพราะส่วนใหญ่หุ้นที่มี Market cap สูงๆจะอ้างอิงดัชนี SET เป็นหลัก ภาพรวมSETลงหุ้นลง SET ขึ้นหุ้นขึ้น การรู้ภาพใหญ่ช่วยตัดความเสี่ยงในการลงทุนไปมาก ลงทุนหุ้นดีผิดจังหวะก็ขาดทุน ไม่พูดถึงมุมมองปัจจุบันเพราะมีหลากหลายความคิดเห็นว่าดัชนีจะไปต่อหรือไม่
6.พอรู้ภาพรวมดัชนีแล้วก็ต้องรู้จักหุ้นรายตัว ส่วนนี้ต้องศึกษา เช่น หุ้นมีปันผล หุ้นนี้ P/E เท่าไหร่ เพื่อดูว่าหุ้นถูกหรือแพง
7.จัดพอร์ต หากพอร์ตเล็กอาจลงทุนหุ้น 3-5 ตัวที่อยู่คนละหมวดอุตสาหกรรม ทำไมต้องคนละหมวดอุตสาหกรรม??? เพื่อกระจายความเสี่ยง เกิดมีข่าวร้ายต่อหนึ่งหมวดอุตสาหกรรม คุณจะได้ไม่ขาดทุนทั้งพอร์ต

วิธีการศึกษาวิธีเล่นหุ้นคร่าวๆ สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของดัชนีก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อหุ้นรายตัว หุ้นปั่น หุ้นมีข่าว หุ้นมาร์เกตติ่งเชียร์ อันนี้ใช้วิจารณาณให้มากๆ สำหรับคนไม่รุ้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูที่ละขั้น ส่วนคนที่เล่นมาก่อนเล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไป อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนต้องใช้เวลา เริ่มอย่างระวังดีกว่า

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

6 TIPS ลับ การเทรด FOREX

6 TIPS ลับ การเทรด FOREX ให้เก่งกว่าที่เป็นอยู่

การเทรด Forex นั้นต้องใช้กลยุทธในการเทรดมากมาย ต้องวิเคราะห์ตลาดอย่างต่อเนื่อง และสำหรับวันนี้เราได้เอาTips ดีๆมาฝากสำหรับนักเทรด Forex กัน

1.กลยุทธในการเทรดควรจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และบุคลิกภาพของคุณ ถ้าคุณมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน คุณควรเลือกเทรดในทามเฟรมขนาดใหญ่ เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน ถ้าคุณไม่สามารถรอคอยการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ได้คุณควรเทรดในทามเฟรมขนาดเล็ก เช่น 5-15 นาที ถ้าคุณต้องการเวลาหลายชั่วโมงในการตัดสินใจ คุณควรเลือกทามเฟรมขนาดใหญ่ และเทรดในแนวโน้มระยะยาว

2.เรียนรู้วิธีการบริหารความเสี่ยง เพราะถ้าคุณไม่บริหารความเสี่ยงและเทรดมากจนเกินไป เมื่อทุนคุณหมด คุณก็จำเป็นที่จะต้องออกจากธุรกิจนี้อย่างทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเสี่ยงเกิน 5% ของพอร์ต และสำหรับทริปนี้ ผมแนะนำว่าคุณไม่ควรที่จะเทรดเกิน 2-3% ของพอร์ต

3.เมื่อคุณเทรด คุณจะต้องพิจารณาแนวโน้มของเทรนในปัจจุบันเสมอ ซึ่งมันขึ้นกับทามเฟรมที่คุณใช้ เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน เป็นต้น ถ้าตลาดอยู่ในสภาวะที่มีแนวโน้ม คุณจะต้องเปิดเทรดตามแนวโน้มนั้น ห้ามเปิดเทรดสวนแนวโน้มนั้น และถ้ามันไม่มีแนวโน้ม คุณสามารถเทรดได้ทั้งสองทิศทางด้วยการขีดเทรนไลน์ในลักษณะ Channel



4.พยายามประเมินทักษะการเทรดของคุณทุกๆสิ้นเดือนหรือสิ้นปี อย่าตัดสิ้นความสำเร็จหรือล้มเหลวพียงแค่การเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว กลยุทธในการเทรดอาจจะผิดพลาดถึง 10 ครั้งติดๆกัน ด้วยการสูญเสียครั้งครั้งละน้อยๆ เช่น -15 จุด แต่เมื่อการเทรดเข้าทางของคุณ คุณอาจทำได้ถึง +300 จุด ต่อเดือนและอาจทำได้ถึง +2000จุด ต่อปี แต่ถ้าคุณตัดสินการเทรดทั้งหมดจากเพียงแค่การเทรดในตอนเริ่มต้นเท่านั้น คุณก็อาจจะยอมแพ้ไปก่อน ก่อนที่จะได้พบกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในภายหลัง

5.คุณควรรู้วันที่เหมาะสมกับการเทรดในรอบสัปดาห์ อย่าเทรดเมื่อตลาดมีโวลุ่มต่ำ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเทรดวันจัทร์และวันศุกร์ วันจันทร์เทรดจะมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ส่วนวันศุกร์ก็จะมีแนวโน้มที่ผันผวนมาก เพราะว่าวันศุกร์มีเทรดเดอร์จำนวนมากปิดโพซิชันในระยะวีคของพวกเขา

6.ก่อนที่จะยอมรับสัญญาณการเทรด คุณต้องตรวจสอบก่อนว่า กำไร/ขาดทุน ต้องได้อย่างน้อย 2:1 และอย่าเข้าเทรดถ้า กำไร/ขาดทุน น้อยกว่า 2 จากสถิติพบว่า โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะมีความสามารถในการคาดเดาตลาดได้ถูกต้องประมาณ 60% โดยเฉลี่ยเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไม กำไร/ขาดทุน ควรต้องได้อย่างน้อย 2:1 นี่คือแนวทางที่จะทำให้คุณได้กำไรในระยะยาว

เป็นยังไงกันบ้างละครับสำหรับ Tips ในการเทรด Forex หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

สอนเล่นหุ้นอย่างไร

สอนเล่นหุ้นอย่างไร..ให้มีวินัยในการเทรด

เพียงเรามีอินเทอร์เน็ตและคอม 1 เครื่องท่านก็สามารถเข้าเทรดหุ้นระดับโลกได้แล้วด้วยเงินเพียง $1 เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบเหมือนสมัยแต่ก่อนการเทรดหุ้น การเล่นหุ้นต่างๆ คนธรรมดาทั่วๆไปไม่นิยมกันมากนักเพราะว่าสิ่งต่างๆยังเข้าไม่ถึง ซึ่งตอนนั้นจะมีก็ธนาคารหรือคนรวยๆเท่านั้นที่รู้จักและสามารถเข้าไปทำกำไรจากตลาด forex นั้นได้ เมื่ออินเทอร์เน็ตและเป็นที่แพร่หลายในตอนนี้จึงทำให้โป๊กเกอร์มีการกระจายความรู้การชักนำเชิญชวน สอนเล่นหุ้นทางออนไลน์ผู้ที่มีใจรักได้เข้ามาลองเทรดกันดูแน่นอนเมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปลองศึกษาระบบการเทรดหุ้นดู ซึ่งการเทรดหุ้นนั้นไม่ยากอย่างที่เราคิดไว้เลย ใครที่มองว่าหุ่นเล่นยาก ไม่กล้าเล่น กลัวดูไม่เป็น เทรดไม่เป็น บอกได้เลยว่าเทรดหุ้นไม่ยากแต่เทรดให้ได้เงินนั้นยากมาก

ก่อนที่เราจะได้ไปลอง เทรด forex กันเราต้องมารู้จักวินัยในการเทรดเสียก่อนเพราะเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับตนเองไม่เช่นนั้นท่านจะหาหลักจับไม่ได้



ทำไมต้องมีวินัยด้วยในการเทรดหุ้น

ก็เพราะว่าเมื่อเราเล่นเป็นแล้วการเทรดก็จะมีความเสี่ยงสูงเพิ่มมากขึ้น เพราะอะไรก็เพราะว่าเราเริ่มรู้ทางกราฟหุ้นมากขึ้นรู้ว่าหุ้นจะลงจะขึ้น แต่คุณต้องรู้ด้วยว่าหุ้น forex มีการเปลี่ยนแปลงในการตลาดสูงสามารถขึ้นได้รวดเร็วและลงอย่างไม่มีท่าจะขึ้นได้เลย

หากเรา กด buy ในขณะที่หุ้นลงอยู่นั้นโดยที่เรามั่นใจเสียจริงว่ายังไงก็ขึ้น แต่หุ้นกลับไม่มีวี่แววที่จะขึ้นเลย อาจจะทำให้คุณล้างพอร์ตได้และเสียเงินจำนวนนั้นไป หากรอราคาแบบนี้ เมื่อคุณกดปิดออเดอร์ไป หุ้นกลับมาดับขึ้นเสียงั้น แบบนี้เราสามารถพบเจอได้ในตลาด forex ซึ่งมันจะขึ้นลงตามจังหวะของมัน เราไม่สามารถไป ปั่นราคามันได้เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่มากใครๆก็เล่นกัน ซึ่ง forex นี่เป็นตลาดหุ้นใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้หรือหลายคนอยากเรียนรู้ให้มากกว่านี้ก็หาที่สอนเล่นหุ้นเพิ่มเติมได้

1 เล่นตามเทรน
คือในกรณีเรายังเป็นมือใหม่อยู่นั้นบอกไว้ก่อนเลยว่าเราต้องเล่นตามเทรนหรือที่เรียกกันว่าเล่นตามน้ำนั้นเอง เพราะว่าเราสามารถทำกำไรในระยะสั้นๆได้ดีกว่าเล่นสวนเทรน

2 วันนี้จะทำเท่าไหร่ดี
ซึ่งแน่นอนคนที่เข้ามาเทรดแล้ว ส่วนมากในกาเทรดระดับระยะสั้นๆ กำไรเล็กๆน้อยเราสามารถเทรดได้สบายๆ เก็บเล็กผสมน้อยทำให้เป็นเงินก้อนโตได้ แต่หากเราไม่ยอมหยุดหรือหวังจะรวยเงินนั้นก็ใช่จะอยู่กับเราตลอดไป เช่น บอกกับตัวเองไว้ก่อนเลยว่าวันนี้จะทำกำไรให้ได้ยอดเท่าไหร่ $5 หรือ $10 หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ เมื่อเราเล่นได้กำไรตามเป้าหมายเราแล้วในวันนี้ก็ควรหยุดพักบ้าง แต่ลองไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาหุ้น แนวโน้มประมาณนี้จะดีกว่า (สำหรับมือใหม่)

3 รู้จักประเมินตน
ประเมินตนเองว่าตนมีนิสัยอย่างไร โลภ ได้แล้วอย่างได้อีกหรือไม่ เพราะว่า forex มีคนบอกว่าเป็นเหมือนกันการพนันที่ทำให้เกิดความโลภได้ เมื่อเรามั่งมีก็อยากได้เพิ่มขึ้นไป ซึ่งเราไม่สามารถรู้อนาคตของราคาหุ้นได้ เช่น หุ้นขึ้น เราก็ได้กำไรในกรณีเล่นขาขึ้น โดยไม่ยอมปิดออเดอร์ในราคาที่พอเหมาะพอควร