วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคล็ดลับการเล่นหุ้นอย่างไรให้ได้กำไร

3 เคล็ดลับการเล่นหุ้นอย่างไรให้ได้กำไร

ใครหลายคนมักจะตั้งคำถามว่าถ้าอยากจะเล่นหุ้นต้องมีอะไรบ้าง คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ คือ ต้องมี “เงิน” เป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเงินที่มีนั่นคือ “ความรู้และความเข้าใจที่ถูกวิธีในการลงทุน” และจากประสบการณ์ลงทุนที่ผ่านมารวมกับการได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับนักลงทุนหลายๆ ท่าน ทำให้พบว่าแท้ที่จริงแล้ว การเล่นหุ้นให้ได้กำไรตลอดเวลานั้นเป็นไปได้ แต่ต้องทำตามเคล็ดลับดีๆ ทั้ง 3 ข้อ ดังนี้

  1. เปลี่ยนคำว่า “เล่น” เป็น “ลงทุน”
สิ่งแรกต้องเข้าใจว่าความแตกต่างระหว่างของคำว่า “เล่นหุ้น” กับ “การลงทุนในหุ้น” นั่นคือ “เป้าหมาย” ในการลงทุน เพราะคำว่า “เล่นหุ้น” นั้น มักจะหมายถึงการเล่นเก็งกำไรในระยะสั้นๆ ซึ่งต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น แต่ “การลงทุนในหุ้น” ต้องการความมั่นคงในระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเงินปันผล หรือมูลค่าของหุ้นในอนาคต ดังนั้นสำหรับมือใหม่ทุกคน ขอแนะนำให้เริ่มต้นตั้งเป้าหมายที่การลงทุนระยะยาวเป็นลำดับแรก อย่าคิดที่จะซื้อขาย “เล่นๆ” เพื่อหวัง “เก็งกำไร” เพราะสุดท้ายแล้วมักจะจบลงที่ลุ้นกันจนตัว “เกร็ง” ทุกทีเลยเชียว
  1. รู้จัก “หุ้น” ให้ดีเสียก่อน
คำว่ารู้จักหุ้นให้ดีเสียก่อน ไม่ได้แปลว่าให้ไปทำความรู้จักหุ้นที่ต้องการลงทุน แต่ให้รู้ก่อนว่าหุ้นตัวนั้นที่เลือกประกอบธุรกิจอะไร มีผลการดำเนินงานอย่างไร ข้อมูลต่างๆ บทวิเคราะห์ ข่าว ผู้บริหาร วิสัยทัศน์ และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องรู้ ถ้าถามว่ารู้แค่ไหนดี บอกตรงๆ ว่ารู้ยิ่งเยอะยิ่งดี และเมื่อรู้เยอะแล้ว ต้อง “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” ข้อมูลให้เป็นด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจและวางแผนการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ข้อผิดพลาดใหญ่ๆ ที่มือมักเจอเสมอ นั่นคือ “หุ้นเพื่อนบอก” เพื่อนนี่แหละมักชอบบอกข่าวมาว่าหุ้นตัวนี้ดี ให้รีบๆ ซื้อ แถมบอกราคาเป้าหมายไว้เสร็จสรรพ แต่ถ้าซื้อไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอะไรเลย แต่รีบซื้อเพราะกลัวว่าหุ้นจะขึ้นและไม่ได้ซื้อ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับซื้อในราคาที่สูงมาก เพราะว่าเพื่อนไม่เคยบอกเลยว่าราคาที่เหมาะสมจริงๆ ของหุ้นตัวนี้คือเท่าไรกันแน่ คำที่น่ากลัวอีกคำ คือ “วงใน” หรือ “เค้าว่ามา” รับประกันเลยว่าถ้าข่าวหลุดมาถึง “นักลงทุนมือใหม่” เมื่อไรแล้วล่ะก็ข่าวนั้นคงไม่ใช่ “วงใน” อย่างแน่นอน
  1. รักษาต้นทุนก่อนคิดถึง “กำไร”
วิธีการลงทุนที่ดีที่สุด คือ “ไม่ขาดทุน” หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าถ้าเล่นหุ้นแล้วไม่หวังกำไรจะเล่นไปทำไม แต่ความหวังที่อยากจะได้กำไรสูงๆ ทำให้เกิดความโลภในการลงทุน จนบางครั้งมองข้ามสิ่งสำคัญหลายๆ อย่างไป ดังนั้นในการตัดสินใจซื้อหุ้นทุกครั้ง ต้องถามตัวเองย้ำๆ ว่าจะลดความเสี่ยงในการขาดทุนให้ต่ำที่สุดได้อย่างไร และอย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดี ดูความเสี่ยงให้เหมาะสม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะจะต้องถือหุ้นตัวนี้ไปอีกนานครับ

สำหรับ 3 ข้อที่ว่ามานี้อาจจะเป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นในการลงทุนสำหรับมือใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะเน้นย้ำก็คือก่อนจะลงทุนอะไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมที่สุดคือ “ความรู้” แต่สิ่งที่จะบอกว่าความรู้ของเราถูกต้องหรือไม่ คือ “ประสบการณ์” ดังนั้นขอให้ทุกคนสร้างสรรค์ความรู้อย่างสม่ำเสมอ และสร้างเสริมประสบการณ์ในการลงทุนให้มาก และเชื่อเหลือเกินว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนของทุกคนคงจะไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

อย่าเทรด Demo นานไป


หุ้นปันผลเป็นอย่างไร เทคนิคที่นักเล่นหุ้นทุกคนควรต้องรู้
การเล่นหุ้นปันผล นั้นเป็นแนวทางการเลือก และเป็นสิ่งที่นักเล่นหุ้นต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีเลย เป็นจัดได้เลยว่าเป็นชนิดของหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย มีโอกาสได้อย่างมากเลยนั่นเอง

แต่ทั้งนี้การเล่นหุ้นปันผล ใช่ว่าจะเล่นโดยไม่ต้องเรียนรู้ หรือไม่ดูแนวโน้มความเป็นมาเป็นไปของหุ้นในแต่ละตัวเพราะกระแสโลกในยุคปัจจุบันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตอลดเวลา และเป็นอุปสรรค์ที่สุดเลยต่อการเล่นหุ้น คงจะมีหลายคนที่ให้มุมมองเกี่ยวกับ หุ้นปันผล ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนอาจไม่เคยได้สัมผัสหรือเคยรู้จักด้วยซ้ำไป

แต่สำหรับหลายคนแล้ววงการการเล่นหุ้น ต่างก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาด หรือเพื่อเป็นแนวทางในการเล่นหุ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเทคนิค และตัวอย่างการเล่น หุ้นปันผล ในรูปแบบการเล่นที่เป็นพื้นฐานมาฝากให้ได้ทำการศึกษากับในกรณีที่คุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการทดลองหรือฝึกหัดในการเล่นหุ้นปันผล ได้ทำความเข้าใจกันนั่นเอง

นักลงทุนรายใหม่ ก็อาจจะให้ความหมายของ หุ้นปันผล ว่าเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ หุ้นของบริษัท ที่มีการจ่าย เงินปันผล นั่นเอง ซึ่งหลายๆคนคงอยากทราบว่า หุ้นของบริษัทใดบ้าง ที่มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลกันบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการลงทุนนั่นเอง โดยในส่วนของข้อมูลการจ่ายเงินปันผลของแต่ละบริษัท เราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง โดยเลือกหุ้นที่เราสนใจ และเลือกไปที่นโยบายเงินปันผล ก็จะมีรายละเอียดทั้งหมดว่าแต่ละบริษัท จ่ายหรือไม่จ่ายเงินปันผล จ่ายเป็นเงินสด หรือจ่ายเป็นหุ้นปันผล ที่สัดส่วนเท่าไหร่

แต่สิ่งที่เป็นปกติสำหรับราคาหุ้นที่มีการปันผลก็คือ ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นก่อนที่หุ้นจะขึ้นเครื่องหมาย XD และหลังจากวันที่ขึ้น XD ราคาหุ้นก็จะปรับตัวลง ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่ปรับลงมากนัก หรือไม่ก็ปรับลงไปมากกว่ามูลค่าเงินปันผลที่ได้มาเสียอีกดังนั้น จะมีสิ่งที่ควรระวังไม่ควรทำก็คือ การเลือกซื้อหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน เพราะราคาหุ้นจะค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียวนั่นเอง และหากเราบังเอิญซื้อไปแล้วก็ควรทำใจยอมรับว่า ราคาหุ้นจะต้องปรับตัวลงแน่นอน และอาจจะลงไปมากกว่าราคาทุนหักด้วยเงินปันผลที่ได้ด้วยซ้ำ หลายคนที่เป็นนักลงทุนรายใหม่อาจจะคิดว่าการซื้อหุ้นที่มีปันผลก่อนหน้าเท่ากับว่าได้กำไรเห็นๆ แต่พอซื้อไปแล้วราคาลดลงซึ่งเป็นไปตามปกติ แต่อาจจะลงเยอะมากจนอาจจะตกใจกลัวและปล่อยขายไปในราคาที่ขาดทุนได้เช่นกัน

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อยากเล่นหุ้นเป็น…ต้องทำยังไง

อยากเล่นหุ้นเป็น…ต้องทำยังไง?

หลายคนเข้าใจว่าวิธีการเล่นหุ้นมีอยู่ 2 แบบ คือ
  1. แนวVI คือ การเลือกซื้อหุ้นซักตัวที่คุณมองว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่,มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก จากนั้นก็ตัดสินใจถือยาวๆหลายๆปี โดยคิดง่ายๆว่าจะได้รับเงินปันผล/แถมด้วยราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. แนวเทคนิค คือ เข้าซื้อหุ้นตอนราคาลง แล้วไปรอขายตอนราคาขึ้น
“ถ้าคุณคิดว่าทุกอย่างที่พูดมามันง่าย….คุณคิดผิดถนัดครับ”

ซึ่งเมื่อคุณเริ่มเข้าสู่สนามการลงทุนแล้ว..กลับกลายเป็นนำเงินมาจมอยู่กับพอร์ต แถมถ้าซื้อผิดจังหวะก็ยังต้องเจอช่วงที่หุ้นราคาตกให้นอนเครียดอีกต่างหากจากนั้นก็จะเริ่มไปลงเรียนคอร์สสัมมนาอบรมฟรีตามที่ต่างๆ บ้างก็ถูกหลอกให้ไปฟังการขายคอร์ส,บ้างก็ไปฟังผู้บรรยายพูดวนเหมือนพายเรือในอ่าง “แต่ที่หนักสุด คือ หลงไปจ่ายค่าเรียนคอร์สละหลายหมื่นจนถึงหลักแสน” เราต้องวิเคราะห์และเลือกให้ดีก่อนเพราะคอร์ดดีๆราคาก็มีเยอะเหมาะสำหรับคนที่อยากเล่นหุ้นเป็น แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า การที่เราเล่นหุ้นนั้น เขาเลือกเราว่าอย่างไร

tradeForex

หุ้น สามารถแบ่งออกได้อีกหลายประเภทคือ หุ้นสามัญ, หุ้นบุริมสิทธิ, และหุ้นกู้ ซึ่งบอกถึงความมีส่วนเกี่ยวพันกับบริษัท แต่ว่าในลักษณะที่ต่างกันดังนี้

หุ้นบุริมสิทธิ คล้ายกับหุ้นสามัญ เพียงแต่ว่าไม่มีสิทธิออกเสียงในการบริหาร แต่มีสิทธิประโยชน์ด้านเงินปันผลมากกว่าหุ้นสามัญ กล่าวคือเมื่อบริษัทจะจ่ายปันผล จะต้องจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นบุริมสิทธินี้ก่อน หลังจากนั้นจึงจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์มักไม่เป็นที่ดึงดูดในการลงทุนนัก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำสูง และมีสิทธิประโยชน์ (กับบริษัทผู้ออก) ต่ำกว่าหุ้นสามัญ ในขณะที่หากบริษัทถึงกาลมีปัญหาจริงๆ ก็มักไม่เหลือเงินคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นชนิดนี้อยู่ดี นักลงทุนส่วนมากจึงมักหลีกเลี่ยงหุ้นบุริมสิทธิกันมาก

หุ้นสามัญ คือเอกสารที่บอกถึงความมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในบริษัท มีสิทธิในการออกเสียงเพื่อการบริหารงาน และมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่นเงินปันผล ซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ ดังนั้น การที่เราเป็นเจ้าของหุ้น ก็เหมือนกับว่าเรามีส่วนในการเป็นเจ้าของบริษัท โดยได้ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมในการลงทุนในหุ้นนั้นรวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการซื้อหลักทรัพย์เกี่ยวพันกับบริษัทในราคาต่ำกว่าบุคคลภายนอก ไม่ใช่เพียงแต่การซื้อมาแล้วขายไปเพื่อกำไรที่เกิดขึ้นจากราคาที่เปลี่ยนแปลงสูงขึ้นเพียงอย่างเดียว

หุ้นกู้ หุ้นประเภทนี้จะเป็นเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ต่อบริษัทผู้ออกหุ้นกู้นั้น ซึ่งก็คือการที่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ได้กู้เงินผู้ซื้อหรือผู้ถือหุ้นกู้นั้นเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินกิจการ โดยสัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทน ผู้ถือเป็นจำนวนเท่าใด เป็นเวลานานเท่าใด และครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อใด ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว บริษัทก็จะนำเงินสดมาซื้อหุ้นกู้นั้นคืนจากผู้ถือตามราคาหน้าตั๋ว ซึ่งเข้าใจง่ายๆก็คือการใช้หนี้

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่หรือคนที่อยากเล่นหุ้นเป็นควรจะทราบคือการซื้อขายหุ้นนั้น ก็เหมือนกับสินค้าทั่วไป คือมันมีราคา เพราะมีคนต้องการ เราขายสินค้าหรือหุ้นได้ทั้งหมดโดยไม่เหลือ ก็เพราะมีคนต้องการสินค้านั้น แต่ถ้าหากวันหนึ่ง ซื้อขายกันไม่มากเท่าไร ซื้อยากขายยาก เรียกง่ายๆว่าเป็นหุ้นประเภทสภาพคล่องต่ำ หากเรามีหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ คือไม่ค่อยมีการซื้อขาย การที่เราจะเปลี่ยนเป็นเงินนั้นเป็นไปได้ยากมาก แต่ถ้าบังเอิญเจอบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ เป็นบริษัทที่ดี จ่ายเงินปันผลสูง การเติบโตดี เรียกว่าดีทุกอย่าง แต่ไม่มีใคร Bid เพื่อซื้อหุ้นนั้น เราก็ขายไม่ได้

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วิธีการง่ายๆ ในการหาเรียนรู้เรื่องหุ้น

7 วิธีการง่ายๆ ในการหาเรียนรู้เรื่องหุ้นแบบเร่งด่วน!

สำหรับคนที่กำลังเรียนรู้เรื่องหุ้นอยู่ละก็วันนี้ผมนำ เอา 7 วิธีการง่ายๆ ในการหาความรู้เล่นหุ้นเพิ่มเติม หรือถ้าใครเป็นมือเก่าจนเขรอะแล้วก็ลองกลับไปย้อนทำอะไรซักอย่างแก้เบื่อบ้างก็ได้ งั้นขั้นตอนแรกเราก็เริ่มแรกก่อนว่าเราควรทำอย่างไร

1.เปิดบัญชีใหม่
นี่เป็นวิธีการง่ายๆในการที่เราจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆครับ ว่าชาวบ้านชาวช่องเขาไปถึงไหนแล้ว ทำได้โดยการเปิดพอรท์เล่นหุ้นไว้หลายๆที่ ซึ่งผมสังเกตุว่าบางครั้งแค่ละที่จะมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันไปนะครับ โดยเฉพาะโบรคเกอร์ที่มีโปรแกรมการเทรดเป็นของตัวเอง แต่พอดีผมไม่ได้ค่าโฆษณาครับ เอาเป็นว่าลองไปดูกันนะครับมีหลายที่อยู่

2.ดูทีวี ฟังข่าววิทยุ
วิธีการนี้ผมมองว่าเป็นวิธีการที่ทุกคนน่าจะทำกันอยู่แล้วเพียงแต่อยากจะขอเตือนไว้อย่างว่า บางครั้งหากเราดูทีวีข่าวสาร ฟังวิทยุติดตามจนบ่อยเกินไป เราอาจจะมี “โอกาสที่จะเกิดความสับสนทางจิตใจจนออกทะเลไปก็เป็นได้”ต้องควบคุมสติไว้ด้วยแม้แต่ในยามที่สบายที่สุดอย่างดูทีวีหรือฟังวิทยุครับ

3.อ่านบทวิเคราะห์หุ้นจากหลายๆที่
เราไม่จำเป็นจะต้องอ่านบทวิเคราะห์หุ้นที่เป็นเฉพาะของหุ้นที่เราถือครับ ผมเห็นบางคนหุ้นร่วงไปแล้วร่วงไปอีก ก็ยังไปหยิบบทวิเคราะห์เดิมๆมาอ่านปลอบใจตัวเอง โดยสงสัยแกจะลืมคิดไปว่านั่นมันหลายเดือนแล้ว การอ่านบทวิเคราะห์เป็นการฝึกเราให้คิดวิเคราะห์หุ้นอย่างมีระบบมากขึ้น ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเห็นเทคนิคและมุมมองต่างๆของเหล่านักวิเคราะห์ต่างๆกันไปครับ แล้วลองปรับมาเลือกใช้กันดูครับ

4.เปิดเว็บข่าวสารหุ้นต่างๆ
ด้วยการอ่านข่าวหุ้นต่างๆจะทำให้เราได้รับรู้สถาณการณ์ต่างๆที่เราอาจจะมองข้ามไป และหากจะเป็นการดีที่สุดเราควรเสพข่าวหุ้นด้วยความระมัดระวังนะครับ เพราะในตลาดหุ้นแล้วเราไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลย และในบางครั้งแม้แต่ตัวเราก็ด้วยครับ การดูข่าวหุ้นที่ดีควรดูข่าวแล้วเอามาเปรียบเทียบกับสมมุติฐาน ทำการวิเคราะห์แล้วคอยดูผลไปเรื่อยๆครับว่าหากมีสิ่งนี้ๆๆๆๆ เกิดจะมี “ความน่าจะเป็นที่จะเกิดสิ่งใดต่อไปขึ้นมา” ผมเชื่อว่าจะทำให้เราเล่นหุ้นได้ดีขึ้นครับ

5.ไปอบรมเล่นหุ้นซะ
วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ต้องลงทุนสักหน่อยครับ คนบางคนไม่ยอมที่จะเสียเงินกับเรื่องอย่างนี้เลยสักเท่าไหร่เพราะมองว่าเปลือง แต่หากมองดีๆแล้วเราเล่นหุ้นกันวันหนึ่งๆถ้าเสียตังค์กันขึ้นมาผมว่าน่าจะเกินต้นทุนการลงทะเบียนอบรมเรื่องหุ้นนะครับ หุหุ ที่สำคัญระวัง FAKE GURU ทั้งหลายที่อ้างว่าตนอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเรียกเงินโหดๆแพงๆ บางทีผมเห็นหลายคนเสียเงินคอร์สละหลายๆหมื่น หรือแสน อย่างนี้เห็นทีคนที่จะรวยคงเป็นคนสอนแล้วละครับ

6.อ่านบทความหุ้นในอินเตอร์เน็ทเยอะๆ
วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ผมทำเป็นประจำครับ ถึงแม้เราจะไม่ได้ความลึกของเนื้อหาสักเท่าไหร่แต่มันก็เพลิดเพลินที่จะอ่านไม่น้อย คุณสามารถที่จะพบกับความคิดแปลกๆ ดีๆ หรือประหลาดในการเล่นหุ้น ได้อย่างมากมายและที่สำคัญคือมันอัพเดทอยู่เรื่อยๆครับ แต่วิธีการนี้มีอันตรายที่ควรระวังตรงที่หากเรารับเอาทัศนคติที่ผิดไปแล้ว มันจะกลายเป็นความเชื่อที่ทำให้เราไม่ไปไหน ต้องระวังให้ดีนะครับ

Focus Forex

7.อ่านหนังสือหุ้น
“การอ่านหนังสือเป็นการเรียนรู้เรื่องหุ้นที่ประหยัดที่สุด” นี่เป็นคำพูดของ เหมา เจ๋อตุงที่เคยพูดเอาไว้ครับซึ่งไม่แปลกที่เขาจะพูดอย่างนี้เพราะเขาเคยเป็นครู และเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดอยู่พักใหญ่ๆจนอ่านพิชัยสงครามซะครบถ้วนกระบวนความไปหลายเล่มเลยทีเดียว  และผมคิดว่าในยุคนี้ก็ถือเป็นโชคดีอย่างยิ่งนะครับ ที่หนังสือดีๆมีให้เราอ่านได้โดยไม่ยาก และไม่แพง โดยหากคุณกำลังขัดสนหากสนใจลองหาใน อินเตอร์เน็ทดูครับ ไฟล์ประเภท PDF มีเยอะมากสนใจเรื่องไหนก็ลองหาดูครับ หากคิดไม่ออกจะอ่านเล่มไหนลองดูใน แนะนำหนังสือหุ้น